ศาลพระกาฬ

 ตั้งอยู่ริมทางรถไฟด้านทิศตะวันออกของพระปรางค์สามยอด ตำบลท่าหิน เป็นเทวสถานเก่าของขอม สร้างด้วยศิลาแลงเรียงซ้อนกันเป็นฐานสูง จึงเรียกกันมาแต่ก่อนอีกชื่อหนึ่งว่า "ศาลสูง" ที่ทับหลังซึ่งทำด้วยศิลาทรายสลักเป็นรูปพระนารายณ์บรรทมสินธุ์ อายุราวพุทธศตวรรษที่ 16 วางอยู่ติดฝาผนังวิหารหลังเล็กชั้นบน ณ ที่นี้ได้พบหลักศิลาจารึกแปดเหลี่ยมจารึกอักษรมอญโบราณด้วย ส่วนด้านหน้าเป็นศาลที่สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2494 โดยสร้างทับบนรากฐานเดิมที่สร้างไว้ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ภายในวิหารประดิษฐานพระนารายณ์ยืน ทำด้วยศิลา 2 องค์ องค์เล็กเป็นแบบเทวรูปเก่าในประเทศไทย องค์ใหญ่เป็นประติมากรรมแบบลพบุรี แต่พระเศียรเดิมหายไป ภายหลังมีผู้นำพระเศียรพระพุทธรูปศิลาทรายสมัยอยุธยามาสวมต่อไว้ เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนทั่วไป

 ในบริเวณรอบศาลพระกาฬร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ จึงเป็นที่อยู่อาศัยของฝูงลิงกว่า 300 ตัว ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของจังหวัดลพบุรี กล่าวกันว่าเดิมบริเวณนี้เต็มไปด้วยต้นกร่างขนาดใหญ่ มีลิงอาศัยอยู่ เมื่อมีคนนำอาหารและผลไม้มาแก้บนที่ศาลพระกาฬ ลิงป่าเหล่านั้นได้เข้ามากินอาหาร จึงเชื่องและคุ้นเคยกับคนมากขึ้น

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.ลพบุรี 036-770096-7
http://www.tourismthailand.org/lopburi

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

ทางขึ้นศาลพระกาฬ เมื่อเดินทางมาถึงศาลพระกาฬเราอ้อมวงเวียนรอบศาลพระกาฬไปจอดรถที่ลานจอดรถเยื้องไปทางด้านหลังของศาลแล้วเดินมาที่ทางขึ้นศาลพระกาฬ บริเวณนี้คนเดินทางมากราบไหว้บูชาศาลพระกาฬกันเนืองแน่นตลอดช่วงของวันหยุด ตั้งแต่บันไดทางเดินขึ้นไปก็เบียดเสียดไปด้วยผู้คนที่หลั่งไหลกันมา

ที่เห็นอยู่นี้เป็นศาลที่สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2494 โดยสร้างทับบนรากฐานเดิมที่สร้างไว้ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ภายในวิหารประดิษฐานพระนารายณ์ยืน ทำด้วยศิลา 2 องค์ องค์เล็กเป็นแบบเทวรูปเก่าในประเทศไทย องค์ใหญ่เป็นประติมากรรมแบบลพบุรี แต่พระเศียรเดิมหายไป ภายหลังมีผู้นำพระเศียรพระพุทธรูปศิลาทรายสมัยอยุธยามาสวมต่อไว้ เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนทั่วไป

รูปปั้นลิงหน้าศาลพระกาฬ 2 ข้างของบันไดทางขึ้นมีรูปปั้นลิงสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของลพบุรี เป็นรูปปั้นขนาดใหญ่สวมเครื่องประดับด้วย บริเวณหน้าศาลพระกาฬมีลิงอยู่จำนวนมากควรระวังสิ่งของที่ถือติดมาด้วยโดยเฉพาะถุงพลาสติกเดี๋ยวลิงจะมาแย่งเอาไปนะครับ

ภายในศาลพระกาฬ แน่นขนัดไปด้วยผู้คนต่างคนต่างพยายามจะนั่งจุดเทียนธูป บูชาพระกาฬแล้วนำดอกไม้ไปวางที่แท่นวางดอกไม้ ปิดทอง กว่าจะเข้าไปได้ลำบากยากเย็น คนที่เข้าไปปิดทองแล้วจะออกมาก็ลำบากไปด้วยความเบียดเสียดของคนในนั้น

ศาลพระกาฬเก่า ศาลพระกาฬ เทวสถานแบบขอมเป็นปรางค์เดี่ยวฐานสูงก่อด้วยศิลาแลง ผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส มีบันไดขึ้นลงทั้ง 4 ด้าน เรือนธาตุหรือองค์ปรางค์หักพังลงหมดแล้ว อายุราวต้นพุทธศตวรรษที่ 13 โบราณวัตถุสำคัญที่พยได้แก่รูปเคารพเจ้าพ่อพระกาฬ เป็นประติมากรรมลอยตัว ทำจากศิลารูปพระนารายณ์ เศียนเดิมหักหายไปที่เห็นในปัจจุบันเป็นเศียรพระพุทธรูปศิลาสมัยอยุธยา นำสวมต่อไว้ในสมัยหลัง มีการพบทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ อายุราวพุทธศตวรรษที่ 17 และเทวรูปพระนารายณ์ทำด้วยศิลาทรายขนาดเล็ก และศิลาจารึกหลักที่ 18 เป็นจารึกอักษรหลังปัลลวะ ภาษามอญโบราณอายุราวพุทธศตวรรษที่ 14 และจารึกอักษรขอม หลักที่ 19 และ 20 (จารึกศาลสูง) กรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2479

พระพุทธรูปในศาลพระกาฬ นอกเหนือจากเทวรูปที่ประดิษฐานเป็นองค์ประธานในศาลพระกาฬแล้วยังมีพระพุทธรูปอีกหลายองค์หลายปางเป็นพระพุทธรูปขนาดบูชา มีประชาชนที่ศรัทธาเดินทางมากราบไหว้ปิดทอง

เจ้าพ่อพระกาฬ (พระนารายณ์) รูปเคารพเจ้าพ่อพระกาฬ เป็นประติมากรรมลอยตัว พระนารายณ์ยืน ทำด้วยศิลา 2 องค์ องค์เล็กเป็นแบบเทวรูปเก่าในประเทศไทย องค์ใหญ่เป็นประติมากรรมแบบลพบุรี แต่พระเศียรเดิมหายไป ภายหลังมีผู้นำพระเศียรพระพุทธรูปศิลาทรายสมัยอยุธยามาสวมต่อไว้ เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนทั่วไป

ภายในศาลพระกาฬ หลังจากที่ได้ไหว้พระกาฬและปิดทองพระพุทธรูปแล้วเราก็มายืนรออยู่มุมเล็กๆ มุมหนึ่งในศาลพระกาฬเท่าที่จะพอหาพื้นที่ได้ ผู้คนก็ยังคงหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย รอจังหวะให้บริเวณองค์เจ้าพ่อพระกาฬว่างหน่อยก็กดชัตเตอร์มาได้รูปนี้รูปเดียวเพราะยืนอยู่นานไม่ได้คนที่จะเข้ามาไหว้จะว่าเอาครับ หลังจากนั้นก็เดินจากศาลพระกาฬไปที่ พระปรางค์สามยอด กันต่อ