นายกองค์การบริหารส่วนจ.เลย เผยโครงการกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง จะกระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อย น่าจะส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่งเสริมงาน รายได้ การท่องเที่ยวครบวงจร
นายธนาวุฒิ ทิมสุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเลย เปิดเผยว่าโครงการกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึงนั้น ตนคิดว่าสมควรส่งเสริมให้เกิดกระเช้าไฟฟ้าที่ภูกระดึง เพราะว่า จะกระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อย น่าจะส่งเสริม การท่องเที่ยว ส่งเสริมงาน รายได้ การท่องเที่ยวครบวงจร รายได้ ประโยชน์โดยภาพรวมนอกจากจังหวัดเลย จะได้แล้วยังมีจังหวัดในภาคอีสานตอนบน ภาคเหนือตอนล่าง ก็เกิดการพัฒนาสร้างความเจริญทั้งหมดในภูมิภาคนี้ จะเกิดการสร้างงาน เกิดการท่องเที่ยว เกิดความเจริญมีผลดี นักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้น ที่ผ่านมาและปัจจุบันไปจำกัดอยู่ ที่กลุ่มวัยรุ่น จำกัดวัยนักท่องเที่ยวเกินไป คนมีเงินไม่มีโอกาสขึ้นไปสัมผัสกับธรรมชาติอันสวยงาม
แต่ความคิดส่วนตัวแล้วตนเห็นว่า เป็นเรื่องและเป็นโครงการที่ยากลำบากมากลำบากเพราะเพียงรัฐมนตรีว่า การกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเผยออกมานิดเดียวว่าต้องทบทวนและนำมาพิจารณา กันใหม่เท่านั้นเอง ก็ถูกแรงต้านแรงกระทบมากมาย จากกลุ่มองค์กรที่ไม่เห็นด้วย ตนเห็นว่าให้เอา ความเป็นจริงมาคิดมาพูดกันดีกว่า ต้องที่สำคัญนั้นก็ต้องให้ผ่านการอนุญาตของกรมป่าไม้มาก่อนให้เป็น รูปธรรมออกมาให้ชัดเจนเสียก่อน การก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง ไม่น่าจะมีปัญหาตรงไหนทำได้อยู่แล้ว ลบปัญหาและกระแสคัดค้านว่าเมื่อสร้างกระเช้าฯก็จะมีกลุ่มทุนจากภายนอกเข้ากอบโกยมาสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก สิ่งอำนวยประโยชน์บนภูกระดึง หากชาวจังหวัดเลยทำได้ก็จะเป็นสมบัติของชาวเลย และชาวไทยอย่างแท้จริง ไม่มีผลประโยชน์ใดแอบแฝง ปัญหาก็จะไม่มี แรงต้านแรงคัดค้านก็จะลดลงเพราะประโยชน์เป็นของส่วนรวม
ส่วนโครงการแรกที่ส่งเสริม ได้แก่ การล่องเรือหรือล่องแก่งที่น้ำสาน ต.ลาดค่าง อ.ภูเรือ จ.เลย ในวันที่ 23 ก.ย. 2554 ก็จะจัดแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนพร้อมกับส่วนราชการ ผู้สื่อข่าว องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักท่องเที่ยว เข้าร่วมในครั้งนี้ นับว่าเป็นโครงการแห่งแรกของภาคอีสานที่มีโครงการและกิจกรรม "ล่องแก่ง" จะได้รับความนิยมสูง ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ใช้งบประมาณไม่ต้องมากมายอะไร แต่ผลคุ้มค่าทางการท่องเที่ยวสูง
