ผู้เขียน หัวข้อ: สถานการณ์น้ำท่วม 5 ตุลาคม  (อ่าน 8959 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
สถานการณ์น้ำท่วม 5 ตุลาคม
« เมื่อ: ตุลาคม 05, 2011, 01:10:26 PM »
จ.ราชบุรี เปิดศูนย์รับบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

 
    นายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เป็นประธานในการเปิดศูนย์รับบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองราชบุรี โดยตลอดทั้งวันได้มีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนนำเงินและสิ่งของมาร่วมบริจาคจำนวนมาก ซึ่งจังหวัดราชบุรีจะได้นำสิ่งของดังกล่าวไปมอบให้กับจังหวัดต่าง ๆ ที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคกลาง รอบแรกในวันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม 2554 นี้
    ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ยังได้เชิญชวนให้ประชาชนจังหวัดราชบุรีร่วมกันบริจาคเงินหรือสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ได้ที่จุดรับบริจาคด้านหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองราชบุรี หรือที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดราชบุรี หมายเลขโทรศัพท์ 0-3233-2571-2 และที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: สถานการณ์น้ำท่วม 5 ตุลาคม
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2011, 01:11:05 PM »
จ.ระนองประกาศเตือนภัยระวังฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน คลื่นลมแรง 5-7 ต.ค.54

    นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ตรวจสอบสภาวะอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าในช่วงระหว่างวันที่ 5-7 ตุลาคม 2554 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ขณะที่พายุ “นาลแก” เคลื่อนตัวเข้าใกล้บริเวณตอนบนของประเทศไทย ทำให้บริเวณพื้นที่รับลมภาคตะวันออกและภาคใต้ มีฝนตกชุกเพิ่มมากขึ้น อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และลมพัดแรงกระโชกบางช่วงได้ สำหรับคลื่นลมในทะเลสูง 2-3 เมตร จึงขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ ส่วนเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ด้วย
    ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า เพื่อเป็นการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหา อุทกภัย วาตภัยและดินถล่ม อันอาจจะสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย จึงขอให้ทุกหน่วยงาน อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการติดตามสถานการณ์ข่าวพยากรณ์อากาศโดยใกล้ชิด และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนโดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยทราบอย่างกว้างขวาง พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหล ที่ลุ่มริมน้ำและพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดทราบเกี่ยวกับภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 5-7 ตุลาคม 2554 โดยผ่านทางวิทยุกระจาย เสียงท้องถิ่น เสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน และเครือข่ายวิทยุสมัครเล่นในพื้นที่อย่างรวดเร็วและครอบคลุมทุกพื้นที่ และกำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสำหรับอำเภอให้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ขอให้เตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครป้องกันฝ่ายพลเรือน (อปพร.) อาสาสมัครเตือนภัย "มิสเตอร์เตือนภัย” และอาสาสมัครชุดปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยตามโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งทีมกู้ชีพกู้ภัย (OTOS) เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น สำหรับอำเภอให้ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนป้องกันฝ่ายพลเรือนของอำเภอ ให้สามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที หากเกิดสถานการณ์และรายงานสถานการณ์ให้จังหวัดทราบทุกระยะจนกว่าสถานการณ์จะยุติทางโทรศัพท์/โทรสาร หมายเลข 0-7786-2093 และ 0-7786-2095

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: สถานการณ์น้ำท่วม 5 ตุลาคม
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2011, 01:11:28 PM »
ผวจ.ฉะเชิงเทรานำคณะสื่อมวลชนตรวจสถานการณ์น้ำท่วมบริเวณสองฝั่งแม่น้ำบางปะกง

จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นของจังหวัดฉะเชิงเทรา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2554 ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 8 อำเภอ คลี่คลายแล้ว 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแปลงยาว และอำเภอสนามชัยเขต
    โดยเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2554 เวลา 16.00 น. นายกิตติ ทรัพย์วิสุทธิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยนายศิวาโรจน์ มุ่งหมายผล ปลัดจังหวัดฉะเชิงเทรา , นายรวีโรจน์ ส่องศรี ประชาสัมพันธ์จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้นำคณะสื่อมวลชนลงเรือตรวจการณ์ ณ ตลาดน้ำอำเภอบางคล้า , คลองท่าลาด ตลอดจนอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในบริเวณสองฝั่งแม่น้ำบางปะกง และได้นำถุงยังชีพมอบให้แก่ประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อนในครั้งนี้ด้วย
    สำหรับการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของจังหวัดฉะเชิงเทรา นายกิตติ ทรัพย์วิสุทธิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ได้มีการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย ปี 2554 โดยจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยจังหวัดฉะเชิงเทรา ประจำปี 2554 เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2554 และจังหวัดได้แจ้งให้อำเภอต่างๆ ให้จัดทำแผนเฉพาะกิจในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย ปี 2554 แล้ว ในส่วนของสำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้สนับสนุนเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 2 เครื่อง และเรือของเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 ฉะเชิงเทรา จำนวน 1 ลำ ที่บริเวณสะพานรถไฟแม่น้ำบางปะกง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา เพื่อเร่งการระบายน้ำในแม่น้ำบางปะกงออกสู่ทะเล โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554
    นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เตรียมพร้อมในการรับมือกับปริมาณน้ำที่อาจจะเพิ่มสูงขึ้นอีก 30 ซม. ในช่วงสัปดาห์หน้าที่จะถึงนี้ เนื่องจากการระบายน้ำจากคลองรังสิตและแม่น้ำปราจีนบุรี ที่จะไหลเข้าสู่จังหวัดฉะเชิงเทรา ด้านพื้นที่คลองท่าลาด และสองฝั่งแม่น้ำบางปะกง อาจทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น จึงขอเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงให้ระมัดระวังอันตรายจาก ในกรณีที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฉะเชิงเทรา โทรศัพท์ 038 – 536025 – 6 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: สถานการณ์น้ำท่วม 5 ตุลาคม
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2011, 01:12:27 PM »
อิทธิพลของพายุโซนร้อน "เนสาด” ทำให้ระดับน้ำยมสูง ปริมาณน้ำยมได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร

อิทธิพลของพายุโซนร้อน "เนสาด” ทำให้ระดับน้ำยมสูง ปริมาณน้ำยมได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร
    นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการสุโขทัย กล่าวว่า เนื่องจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน "เนสาด” ทำให้ระดับน้ำยมสูงเกินจุดวิกฤตอีกครั้ง ปริมาณน้ำในลำน้ำยมได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและเส้นทางการสัญจรหลายสาย มีผลกระทบอำเภอเมือง ศรีสำโรง สวรรคโลก ทุ่งเสลี่ยม และขณะนี้ยังคงมีประชากรได้รับความเดือดร้อน 29,064 ราย

    ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย กล่าวอีกว่า อ่างเก็บน้ำทุ่งทะเลหลวงมีน้ำล้นคิดเป็นอัตราการไหล 142 ลูกบาศก์เมตร / วินาที ส่งผลกระทบต่อที่อยู่อาศัย เขตชุมชน ตำบลธานี บ้านกล้วย ปากแคว อ.เมือง และ ไหลล้นลงสู่ด้านท้ายประกอบกับปริมาณน้ำในแม่น้ำยมที่เอ่อล้นตลิ่งบริเวณบ้านบางคลอง หมู่ 6 ตำบลปากแคว อำเภอเมือง ได้กัดเซาะทางหลวงหมายเลข 1195 (ตอนสุโขทัย – ศรีสำโรง ) ขาด รวมทั้ง

    เส้นทางหมายเลข 12 (สุโขทัย - เมืองเก่า) น้ำไหลข้ามเส้นการจารจรทำให้การสัญจรไป – มาไม่สะดวก

    เส้นทางคมนาคมหมายเลข 1293 (สุโขทัย - บางระกำ) บริเวณหมู่ที่ 2 บ้านลัดทรายมูล ต่อเนื่องหมู่ที่ 6 บ้านวังกุ้ง ตำบลปากพระ อำเภอเมืองสุโขทัย รถไม่สามารถสัญจรผ่านได้

    เส้นทางคมนาคมหมายเลข 101 (อ.เมืองสุโขทัย - อ.ศรีสำโรง) บริเวณหมู่ที่ 4 ตำบลปากแคว อำเภอเมือง รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: สถานการณ์น้ำท่วม 5 ตุลาคม
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2011, 01:15:03 PM »
เขื่อนภูมิพลต้องเปิดบานประตูฉุกเฉินระบายน้ำเพิ่มเป็น 100 ล้านลูกบาศก์เมตร

 เขื่อนภูมิพลมีน้ำไหลเข้าวันเดียวกว่า 200 ล้านลูกบาศก์เมตร ต้องเปิดประตูฉุกเฉิน(สปินเวย์)ระบายน้ำเพิ่มจากวันละ 60 เป็น 100 ล้านลูกบาศก์เมตร ตั้งแต่เที่ยงคืน ส่งผลกระทบต่อประชาชนท้ายเขื่อนภูมิพล
    วันนี้ ( 5 ต.ค.54) เวลาเที่ยงคืนที่ผ่าน เขื่อนภูมิพล อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ได้เปิดประตูน้ำฉุกเฉิน เพื่อระบายน้ำเหนือที่มีปริมาณไหลเข้าอ่างเก็บน้ำจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันระดับน้ำอยู่ที่ 258.95 เมตร วัดจากระดับทะเลปานกลาง เขื่อนสามารถรับน้ำได้อีกประมาณ 300 ล้านลูกบาศก์เมตร มีความจำเป็นต้องระบายน้ำเพิ่มขึ้น ตามมติของคณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารจัดการน้ำ ซึ่ง มีอธิบดีกรมชลประทานเป็นประธาน จึงต้องเปิดประตูระบายน้ำล้น(สปินเวย์)ทั้งสองบาน จะทำให้มีน้ำลงสู่แม่น้ำปิง เพิ่มจากปกติ 60 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวันเป็น 100 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน และน้ำจากแม่น้ำวังที่ไหลมาสมทบใต้เขื่อนในลำน้ำปิง ที่อำเภอบ้านตาก ทำให้มีน้ำไหลประมาณ1,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในขณะที่แม่น้ำปิงสามารถรับน้ำได้แค่ 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำปิงเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิม 1 เมตร จะเกิดผลกระทบต่อประชาชนท้ายเขื่อนฯ ตั้งแต่อำเภอบ้านตาก ลงไป คืออำเภอเมือง และอำเภอวังเจ้า ของจังหวัดตาก โดยเขื่อนภูมิพล ได้ประสานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก และจังหวัดต่างๆลงไป พร้อมได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชน ได้เตรียมขนย้ายสิ่งของไปอยู่ในที่สูง เพื่อป้องกันการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: สถานการณ์น้ำท่วม 5 ตุลาคม
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2011, 01:17:38 PM »
แขวงการทางปราจีนบุรีแจ้งเตือนผู้ใช้รถระวังน้ำท่วมขังถนนหลายสาย

    วันนี้ (5 ต.ค.54) นายเสรี สิงห์คาร ผู้อำนวยการแขวงการทางปราจีนบุรี เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์อุทกภัยขึ้นในหลายพื้นที่ของจังหวัดปราจีนบุรี ทำให้เกิดน้ำท่วมขังถนนหลายสาย บางเส้นทางผิวจราจรชำรุดเสียหายมาก ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและต้องหลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น แขวงการทางปราจีนบุรี จึงขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนเส้นทางที่รถไม่สามารถสัญจรผ่านได้เช่น ทางหลวงหมายเลข 33 ช่วงกิโลเมตรที่ 176 – 070 – 176+900 ทางหลวงหมายเลข 319 ทางแยกไปอำเภอศรีมหาโพธิ ช่วงกิโลเมตรที่ 151+700 – 152+250 ทางหลวงหมายเลข 3076 ตอนต่อเขตเทศบาลบ้านสร้าง นครนายก กิโลเมตรที่ 0+400 - 1 – 150 ทางหลวงหมายเลข 3293 แยกทางหลวงหมายเลข 319 ปราจีนบุรี – บ้านสร้าง กิโลเมตรที่ 5 + 900 – 6 + 200 และทางหลวงหมายเลข 3481 กิโลเมตรที่ 26 + 200 – 27 – 200 โดยเส้นทางที่รถไม่สามารถสัญจรผ่านไปได้ แขวงการทางปราจีนบุรีได้ปักหลักขาวแดงติดตั้งป้ายเตือนน้ำท่วมทางแล้วในทุกจุด ขอให้ผู้ขับขี่หลักเลี่ยงการใช้เส้นทางดังกล่าว และสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ 037-211098

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: สถานการณ์น้ำท่วม 5 ตุลาคม
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2011, 01:20:36 PM »
ชัยนาท บริเวณแยกต่างระดับชัยนาทตาคลี ระดับน้ำสูงเพิ่มรถติดหลายกิโลเมตรแนะหลีกเลี่ยง

    จังหวัดชัยนาท ที่ถนนพหลโยธิน กม.272 (ต่างระดับชัยนาทตาคลี) ใช้สัญจรได้ช่องทางเดียวโดยให้รถวิ่งสวนทางกัน ระดับน้ำที่ท่วมถนนมีระดับสูงขึ้นจากเมื่อวาน 10 เซนติเมตร อยู่ที่ 30-40 เซนติเมตร ไหล่ทางที่น้ำไหลผ่านอย่างเชี่ยวกรากได้กัดเซาะพังไปแล้วกว่า 1 เมตร แม้ว่าจะใช้แผ่นเหล็กไปปิดป้องกันแล้วก็ตาม
    นายสิทธิชัย วนานุเวชพงศ์ ผู้อำนวยการแขวงการทางชัยนาท ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ทางแขวงการทางชัยนาทร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างสะพานชั่วคราวข้ามกระแสน้ำที่ไหลแรงเพื่อให้รถจักรยานยนต์ผ่านได้ และยังได้มีการนำเสาไฟฟ้าขนาดใหญ่วางกั้นเพื่อชะลอความแรงของกระแสน้ำแต่กระแสน้ำพัดจนไถลมาปิดช่องจราจรไป 1 เลน จึงต้องเร่งให้รถเครนมาเคลื่อนย้ายทำให้การจราจรติดขัดหนักยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้เร่งดำเนินการเพื่อให้การจราจรเคลื่อนตัวได้สะดวกมากที่สุด จึงขอแนะนำผู้จะใช้เส้นทางขึ้นภาคเหนือจากกรุงเทพไม่ควรเข้าชัยนาท ให้ใช้สายเอเชียอย่างเดียว ส่วนผู้ที่จะออกจากจังหวัดชัยนาทแนะนำให้เลี่ยงไปใช้ถนนสาย 311 (ชัยนาท-สิงห์บุรี) ไปออกสายเอเชียที่จังหวัดสิงห์บุรีได้

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: สถานการณ์น้ำท่วม 5 ตุลาคม
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2011, 01:21:33 PM »
อุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ย้ำ การปิดนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนครจากเหตุน้ำท่วม สร้างความเสียหายให้กับจังหวัดอย่างหนัก สูญเสียรายได้เกือบ 3 หมื่นล้านบาท

อุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ย้ำ การปิดนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนครจากเหตุน้ำท่วม สร้างความเสียหายให้กับจังหวัดอย่างหนัก สูญเสียรายได้เกือบ 3 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะการส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังต่างประเทศ
    นายประยูร ติ่งทอง อุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จากความเสียหายของนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนครที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย โดยเฉพาะการผลิตสินค้าประเภทชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ อาหารสำเร็จรูป และรองเท้าแอคโคร์ ไปยังสหรัฐอเมริกา ทวีปยุโรป และเอเชีย นอกจากจะทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสทางธุรกิจแล้ว ยังทำให้พนักงานได้รับผลกระทบตามไปด้วย รวมมูลค่า 25,000-30,000 ล้านบาท ส่วนความเสียหายของผู้ให้บริการรอบนอกนิคมฯ หลายหน่วยงานกำลังประเมินให้ความช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ตาม หลังจากน้ำลดจะต้องใช้เวลาฟื้นฟูถึง 3 เดือน
    “ขณะนี้กำลังอพยพคนงานไปอยู่ในที่ปลอดภัย ส่วนความช่วยเหลือการดำรงชีพระหว่างไม่ทำงานเป็นความร่วมมือของหลายหน่วยงานที่ต้องช่วยกัน หลังจากประเมินความเสียหายก็จะมีการประชุมหารือถึงวิธีการช่วยเหลือ ทั้งผู้ประกอบการ พนักงาน คนงาน และผู้ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ต่อไป”
    อุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับนิคมอุตสาหกรรมโรจนะทั้ง 3 เฟส ที่อำเภออุทัย กำลังระดมเครื่องจักรเสริมคันดินในช่วงเฟสที่ 1 อย่างเข้มข้น โดยให้สูงขึ้นจากเดิมเป็น 5 เมตร ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถป้องกันได้ เพราะหากปล่อยให้น้ำทะลักเข้ามาในนิคมฯ จะทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศถึง 8 หมื่นล้านบาท

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: สถานการณ์น้ำท่วม 5 ตุลาคม
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2011, 01:22:05 PM »
ผู้ว่าปากน้ำ เตรียมแผนขยายคลองลัดหลวง รับน้ำเหนือ

    ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้คลองลัดหลวงเป็นเส้นทางระบายน้ำรับมือกับน้ำเหนือ
    นายเชิดศักดิ์ ชูศรี ผู้ว่าราชการ จังหวัดสมุทรปราการ ได้กล่าวถึงปัญหาเกี่ยวกับน้ำทางเหนือที่จะไหลผ่านลงมาสู่ สมุทรปราการ ได้มีเตรียมการรองรับไว้ 2 ส่วน คือในส่วนแรก ซีกตะวันตก จะมีการพัฒนาคลองลัดหลวง เนื่องจากคลองลัดหลวงเป็นคลองที่ใกล้กับคลองลัดโพธิ์ ที่ได้ทำประตูระบายน้ำตามโครงการพระราชดำริ เพื่อเป็นการเชื่อมแม่น้ำ 2 สาย ให้เส้นทางการระบายน้ำ สามารถระบายน้ำได้รวดเร็ว โดยทางปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มีการสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปทำการศึกษาความเป็นไปได้ ในการที่จะพัฒนาคลองลัดหลวง ให้เป็นคลองระบายน้ำอีกแห่งหนึ่งต่อจากคลองลัดโพธิ์ ที่มีอยู่เดิมแล้ว ซึ่งสามารถที่เพิ่มปริมาตรน้ำที่จะไหลลงทะเลได้เร็วขึ้น โดยจะเพิ่มการไหลของน้ำได้ประมาณ 1 ใน 3 ของคลองลัดโพธิ์ หรือประมาณ วันละ 40 ล้านลูกบาตรเมตร/วินาที หรือ 500 ล้านลูกบาตรเมตร/วัน ทำให้ประหยัดงบประมาณ เพราะไม่ต้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำ
    ในส่วนที่ 2 คือทางซีกตะวันออกนั้น ขณะนี้ได้มีการมอบหมายให้ทางอำเภอต่างๆ ดำเนินการปรับปรุงคลองต่างๆ ที่ทำให้น้ำไหลลงสู่ทะเลได้เร็วขึ้น รวมทั้งหมด 16 คลองโดยให้แต่ละอำเภอเสนอโครงการเข้ามาที่จังหวัดจะพิจารณาอนุมัติ โดยเร่งด่วน โดยจะทำงานร่วมกันระหว่างจังหวัดอำเภอ และเทศบาล ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวเพิ่มว่า ในช่วงตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม ถึงเดือนธันวาคม เป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง ระดับน้ำอาจจะมีผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำบ้างแต่ คงจะไม่รุนแรงมากนัก เพราะ จ.สมุทรปราการ เป็น พื้นที่ใกล้ทะเลทำให้สามารถระบายน้ำออกสู่ทะเลได้อย่างรวดเร็ว

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: สถานการณ์น้ำท่วม 5 ตุลาคม
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2011, 01:22:38 PM »
จังหวัดเพชรบูรณ์เตือนประชาชนระวังอันตรายจากพายุนาลแก

 
    นายจิรายุทธ วัจนะรัตน์ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ แจ้งว่า จากการรายงานและประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (5 ต.ค.) พายุโซนร้อน “นาลแก” บริเวณอ่าวตังเกี๋ย ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 200 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกของเมืองวิญ ประเทศเวียดนาม หรือที่ ละติจูด 18.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 108.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในวันนี้ และจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำในระยะต่อไป

    อนึ่ง ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยมีฝนตกชุกและมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักในระยะ 1-2 วันนี้

    และเพื่อเป็นการป้องกันอันตรายจากการเกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ควรขนย้ายสิ่งของไว้ในที่สูงและปลอดภัย ในเขตเมืองให้เตรียมกระสอบทรายไว้ให้พร้อม สิ่งของที่ขนย้ายไว้แล้วให้ชะลอการขนย้ายลงมา เนื่องจากสถานการณ์น้ำในขณะนี้ระดับน้ำยังทรงตัว หากเกิดฝนตกลงมาอย่างหนักอีกจะทำให้เกิดอุทกภัยรอบใหม่ทันที

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: สถานการณ์น้ำท่วม 5 ตุลาคม
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2011, 01:25:36 PM »
รถบรรทุกน้ำมันสามารถขนน้ำมันมายังจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ตามปกติแล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ต้องใช้รถขนาดเล็กขนถ่ายน้ำมันมายังเส้นทางสายอำเภอปาย

    จากระดับน้ำที่สูงกว่า 2 เมตร บริเวณทางหลวงหมายเลข 108 ฮอด – แม่สะเรียง ทำให้รถบรรทุกน้ำมันไม่สามารถเดินทางมาส่งน้ำมันยังปั๊มในจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ ส่งผลให้วานนี้(4ต.ค.)ปั๊มในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ไม่มีน้ำมันดีเซลให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่ เพื่อเป็นการเร่งนำน้ำมันมาให้บริการแก่ประชาชนโดยเร็ว จึงต้องใช้รถขนาดเล็กขนถ่ายน้ำมันเปลี่ยนเส้นทางมายังตัวเมืองแม่ฮ่องสอนผ่านอำเภอปาย ซึ่งรถบรรทุกขนาดใหญ่ไม่สามารถผ่านได้เนื่องจากเส้นทางคดเคี้ยวและสูงชัน ล่าสุดวันนี้(5ต.ค.)เจ้าหน้าที่สถานีบริการน้ำมันแจ้งว่ารถบรรทุกน้ำมันสามารถเดินทางส่งน้ำมันมายังปั๊มในจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ตามปกติแล้ว

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: สถานการณ์น้ำท่วม 5 ตุลาคม
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2011, 01:26:10 PM »
ชุมชนบ้านเตาถ่าน จ.ชลบุรี เปิดจุดรับบริจาคเครื่องอุปโภค บริโภค และสิ่งของจำเป็น ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมพื้นที่ภาคกลาง

    วันนี้ ( 4 ต.ค.54 ) ที่เต็นท์รับสิ่งของบริจาคช่วยเหลือน้ำท่วม หน้าวัดเทพปราสาท บ้านเตาถ่าน ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอสัตหีบ ได้ร่วมกับเทศบาลเมืองสัตหีบ เทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์ ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านสัตหีบ และพี่น้องชุมชนบ้านเตาถ่าน ร่วมกันเปิดรับบริจาค เครื่องอุปโภค บริโภค และสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น เพื่อนำไปมอบให้กับพี่น้องที่ประสบอุกทกภัยหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคกลาง โดยนางณัฐชา บัณฑิตศิลป์ ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสัตหีบ นางน.ส.รัดใจ บัณฑิตศิลป์ กำนันตำบลสัตหีบ นายณัฐชัย แสงศรี สมาชิกสภาเทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์ เขต 1 ก็มาร่วมบริจาคสิ่งของ และเป็นตัวแทนพี่น้องชุมชนบ้านเตาถ่าน ร่วมรับบริจาคสิ่งของครั้งนี้
    นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอสัตหีบ กล่าวว่า จากในหลายจังหวัดของประเทศไทย ประสบปัญหาอุกทกภัยจนทำให้หลายพันครอบครัว นับล้านชีวิตต้องไร้ที่อยู่อาศัย ขาดแคลนอาหาร เนื่องจากระแสน้ำได้พัดพังทลายบ้านเรือน และ ทรัพย์สินของประชาชนจนเสียหาย นับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ จนเป็นที่ทราบกันดีบนสื่อต่าง ๆ ในฐานะตัวแทนชาวอำเภอสัตหีบ จึงขอเป็นกำลังใจ และจะเร่งรวบรวมสิ่งของรับบริจาค ที่ได้รับจากพี่น้องชุมชนบ้านเตาถ่าน และชาวอำเภอสัตหีบ นำไปมอบให้กับพวกท่านในเร็ววัน จึงขอให้จงมั่นใจพวกเราพี่น้องชาวอำเภอสัตหีบ จะไม่ทอดทิ้ง และเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่กำลังตกทุกข์ได้ยากอยู่ในขณะนี้ จงสู้ และพร้อมที่จะเผชิญกับอุปสรรคที่เกิดจากภัยธรรมชาติ ไม่ช้าทุกอย่างจะต้องเข้าสู่ภาวะปกติอย่างแน่นอน จึงฝากไปยังพี่น้องประชาชนสามารถร่วมบริจาคสิ่งของได้ตั้งแต่บัดนี้ ไปจนถึง 15 ต.ค.54

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: สถานการณ์น้ำท่วม 5 ตุลาคม
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2011, 01:29:25 PM »
เจ้าพระยาทะลักท่วมเมืองนครสวรรค์ อีกรอบช่วงกลางดึก

    เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.ของวันนี้ (5 ต.ค.54) เกิดน้ำเจ้าพระยาไหลทะลักแนวกระสอบทรายเข้ามาอย่างแรง ซึ่งเป็นแนวกระสอบทรายที่มีปัญหาน้ำทะลักที่ด้านหลังโรงแรมเป็นหนึ่งและร้านหม่ำ ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ถนนสวรรค์วิถี เขตเทศบาลนครนครสวรรค์ ภายในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง น้ำมีระดับสูง 50 เซนติเมตรข้ามมาอีกฝั่งของถนน ทำให้ชาวบ้านแตกตื่นมาช่วยกันนำกระสอบทรายกั้นไม่ให้น้ำท่วมอย่างเร่งด่วน โดยมีกำลังทหารจากมณฑลทหารบกที่ 31 ค่ายจิรประวัติ, กำลังเจ้าหน้าที่เทศบาล, กำลังจากนักเรียนตำรวจภูธรภาค 6 และชาวบ้านนับพันคนช่วยกันอย่างเต็มที่ โดยนำกระสอบทรายมาตั้งเป็นแนวหัวและท้ายถนนสวรรค์วิถี สูงกว่า 1 เมตร พร้อมกับนำหินคลุกมากลางถนนสวรรค์วิถี ตลอดแนวของน้ำที่ทะลักเข้ามาบนถนนยาวกว่า 1 กิโลเมตร เพื่อบล๊อคพื้นที่น้ำท่วมเอาไว้ให้ได้
    ล่าสุดเทศบาลนครนครสวรรค์สามารถบล็อกน้ำที่ทะลักจากเจ้าพระยาเข้ามา ไม่ให้ท่วมได้แล้วส่วนหนึ่ง ให้น้ำอยู่ด้านฝั่งโรงแรมเป็นหนึ่ง ที่มีตึกแถวอาคารพาณิชย์ประมาณกว่า 100 ห้องที่ต้องถูกน้ำท่วม แต่ยังมีน้ำที่ทะลักเข้ามาผ่านแนวหินคลุก ลงไปทางซอย สวรรค์วิถีที่ 22 ไปออกด้านอุทยานสวรรค์ นายจิตตเกษมณ์ นิโรจน์ธนรัฐ นายกเทศมนตรีนครสวรรค์ให้พนักงานเทศบาลช่วยเสริมกระสอบทราย พร้อมเข้าไปตรวจสอบจุดที่น้ำทะลัก พังแนวกำแพงไม้ที่ทำไว้ เร่งทำการซ่อมโดยเร็วที่สุดแล้ว ส่วนด้านจุดอื่นๆ ที่ติดกับลำน้ำเจ้าพระยาไม่น่าเป็นห่วง สามารถป้องกันได้ ด้านการจราจรที่เริ่มติดขัดนั้น ตำรวจจรจรนครสวรรค์ได้ระบายรถให้ไปออกด้านข้างโรงเรียนสตรีนครสวรรค์แล้ว

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: สถานการณ์น้ำท่วม 5 ตุลาคม
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2011, 01:29:46 PM »
น้ำท่วมนครหลวง จ.อยุธยาฯ จำนวนมากและโรงสีข้าวกำลังถูกน้ำท่วม

    ชาวบ้าน ต.ปากจั่น อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ขนย้ายสิ่งของหนีน้ำกันอย่างโกลาหล หลังน้ำไหลเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว ขณะที่โรงสีข้าวขนาดใหญ่ใน อ.นครหลวง กำลังถูกน้ำท่วมด้วยเช่นกัน
    ชาวบ้านวัดละมุด ต.ปากจั่น อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เร่งขนย้ายสิ่งของภายในบ้านออกมาอยู่ริมถนนสายนครหลวง – ท่าเรือ หลังน้ำจากแม่น้ำป่าสักไหลเข้าท่วมเพียงแค่ 3 ชั่วโมง โดยระดับน้ำสูงมากกว่า 80 ซม. องค์การบริหารส่วนตำบลปากจั่น อ.นครหลวง เร่งทำสะพานไม้เขาไปในชุมชนดังกล่าว แต่ยังทำได้ไม่สะดวกมากนัก เนื่องจากน้ำท่วมสูงและการนำอุปกรณ์เข้าไปลำบากเพราะเป็นซอยแคบ ทั้งนี้ชุมชนดังกล่าวเป็นอีกชุมชนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำในแม่น้ำป่าสัก ที่เพิ่มสูงขึ้นและไหลเข้าท่วม
    ส่วนภายในตัว อ.นครหลวง ขณะนี้น้ำจำนวนมากกำลังไหลเข้าท่วมเช่นกัน โดยเฉพาะที่โรงสีสามปล่องในเขตเทศบาลตำบลนครหลวง ซึ่งเป็นโรงสีข้าวขนาดใหญ่ผลิตข้าวนึ่งส่งออกต่างประเทศ น้ำจากแม่น้ำป่าสักกำลังไหลเข้าไปภายในตัวอาคารและเครื่องจักรอย่างรวดเร็ว คนงานกำลังเร่งกรอกกระสอบทรายทำแนวป้องกันน้ำท่วม พร้อมกับขนย้ายข้าวสารมากกว่า 10,000 ตัน ขึ้นไปในบนชั้น 2 ของไซโลทั้งหมดแล้ว ส่วนอุปกรณ์เครื่องจักรทั้งหมดก็ต้องปล่อยให้น้ำท่วมไปก่อน และภายหลังน้ำลงแล้วจึงจะตรวจสอบความเสียหาย

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: สถานการณ์น้ำท่วม 5 ตุลาคม
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2011, 01:32:24 PM »
น้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วมถนนสายหลักพรานกระต่าย - สุโขทัย อำเภอพรานกระต่าย ระดับน้ำสูงกว่า 30 เซนติเมตร

น้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วมถนนสายหลักพรานกระต่าย - สุโขทัย อำเภอพรานกระต่าย ระดับน้ำสูงกว่า 30 เซนติเมตร เทศบาลตำบลพรานกระต่าย ตรวจสอบพื้นที่พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนเร่งด่วน
    วันนี้ (4 ตุลาคม 2554) บริเวณถนนสายพรานกระต่าย – สุโขทัย และเขตเขตเทศบาลตำบลพรานกระต่าย เทศบาลตำบลบ้านพราน จังหวัดกำแพงเพชร น้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วม ระดับบนถนนท่วมสูง 40 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรอำเภอพรานกระต่าย และเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลพรานกระต่าย ต้องนำป้ายบอกผู้ใช้รถระมัดระวังอันตราย ส่งผลให้การจราจรติดขัดสัญจรไปมาไม่สะดวก ทั้งนี้ มีบ้านเรือนราษฎรหลายหลังที่อยู่ติดริมถนน ถูกกระแสน้ำป่าที่ไหลเชี่ยว ไหลเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว เจ้าของบ้านขนย้ายสิ่งของไม่ทันได้รับความเสียหาย กระแสน้ำยัง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ทางเทศบาลตำบลพรานกระต่าย ได้ระดมเจ้าหน้าที่กรอกกระสอบทราย แจกจ่ายให้กับประชาชน นำไปกั้นป้องกันน้ำเข้าภายในบ้านเรือน โดยเฉพาะในตลาดเทศบาลตำบลพรานกระต่าย ซึ่งน้ำป่าได้ไหลเข้าบริเวณตลาด ซึ่งเป็นย่านธุรกิจ และเป็นเส้นทางที่ประชาชน เดินทางติดต่อกับทางราชการอีกด้วย
    ด้านนางนันทวัน พะโยม อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105/1 ม.8 ต.ถ้ำกระต่ายทอง อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร ผู้ประสบอุทกภัย กล่าวว่า ฝนตกลงมาตลอดทั้งคืน ทำให้มีน้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วมบ้านของตนอย่างรวดเร็ว ทำให้ตนเก็บของแทบไม่ทัน ส่วนน้ำดื่มในบ่อน้ำตื้น ที่เคยตักมาดื่มกินถูกน้ำท่วม ไม่สามารถตักน้ำมาดื่มได้ ต้องเดินทางมารับน้ำดื่มที่ทางสำนักงานเทศบาลตำบลพรานกระต่าย ขณะที่โรงเรียนชุมชนบ้านเขาแก้ว ระดับน้ำเริ่มท่วมขังบริเวณหน้าโรงเรียน และสนามฟุตบอล ส่วนโรงเรียนบ้านพรานกระต่าย ที่กำลังจะสอบปลายภาคเรียนที่ 1 ทางคณะผู้บริหารย่นเวลาสอบให้เร็วขึ้น เพื่อปิดภาคเรียนให้กับนักเรียนทันที่ เพื่อความปลอดภัยจากสถานการณ์อุทกภัยในครั้งนี้

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: สถานการณ์น้ำท่วม 5 ตุลาคม
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2011, 01:32:46 PM »
ผู้ว่าฯตากแจ้งเตือนประชาชนรับปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นของแม่น้ำวัง-ปิง

 ผู้ว่าราชการจังหวัดตากแจ้งเตือนประชาชนผ่านสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย จังหวัดตาก วิทยุชุมชน และหอกระจายข่าว เตรียมรับสถานการณ์ปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นของแม่น้ำวังและการระบายน้ำเพิ่มขึ้นของเขื่อนภูมิพล ในเที่ยงคืนนี้
    วันนี้ (4 ต.ค.54) เวลา 16.00 น. นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เดินทางไปที่ห้องส่งสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดตาก เพื่อประกาศแจ้งเตือนประชาชน เตรียมรับสถานการณ์กับปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นของแม่น้ำวังและแม่น้ำปิงในพื้นที่จังหวัดตาก พร้อมทั้งมีการถ่ายทอดสัญญาณไปยังวิทยุชุมชน และหอกระจายข่าวในพื้นที่อำเภอสามเงา บ้านตาก วังเจ้า และอำเภอเมืองตาก
    นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำวัง จากฤทธิ์ของพายุนาสาด ทำให้เกิดฝนตกหนักในจังหวัดลำปาง น้ำได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้แม่น้ำวังพื้นที่ตำบลยกกระบัตร ตำบลวังจันทร์ ตำบลวังหมัน อำเภอสามเงา และตำบลแม่สลิด อำเภอบ้านตาก คาดว่าพรุ่งนี้เช้า (5 ต.ค.2554) ระดับน้ำในแม่น้ำวังที่บ้านแม่เชียงราย ตำบลยกกระบัตร จะสูงขึ้นอีกประมาณ 80 เซนติเมตร จึงขอให้ประชาชนได้ขนย้ายสิ่งของไปอยู่ในที่สูงเพื่อป้องกันความเสียหาย และขณะนี้ทางอำเภอสามเงารายงานว่า คันดินกั้นน้ำวังในพื้นที่ตำบลวังจันทร์หลายแห่งต้านทานปริมาณน้ำไม่ไหวได้พังทลาย ทำให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรของราษฎร ขณะนี้ทาง อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และราษฎรได้เร่งระดมซ่อมแซมคันดิน พร้อมขอสนับสนุนกระสอบทรายจากจังหวัด โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตาก ส่งกระสอบทรายไปช่วยเหลือที่สามเงา 7,000 ถุง และอำเภอบ้านตาก 3,000 ถุง รวม 10,000 ถุง
    ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวต่อไปว่า สำหรับเขื่อนภูมิพลเมื่อวานนี้ มีปริมาณน้ำไหลเข้าจำนวน 213.49 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดว่าจะมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพลเป็นประวัติการณ์ถึง 300 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยเมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ มีปริมาณน้ำไหลเข้า 180 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลืออีกเพียง 1.40 เมตรน้ำจะเต็มเขื่อน รับน้ำได้อีกประมาณ 500 ล้านลูกบาศก์เมตร วันนี้ระบายน้ำ 60 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน ตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้ (4 ต.ค.54) เขื่อนภูมิพลจะระบายน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 100 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน เมื่อมารวมกับแม่น้ำวังจะทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดผลกระทบต่อบ้านเรือนราษฎรที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำปิง ตั้งแต่อำเภอบ้านตาก อำเภอเมืองตาก และอำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก ปริมาณน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีก 1 เมตรในเช้าวันพรุ่งนี้ (5 ต.ค.54) จึงขอให้ประชาชนเตรียมรับสถานการณ์ และเตรียมขนย้ายสิ่งของ สัตว์เลี้ยงไปอยู่บนที่สูง เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: สถานการณ์น้ำท่วม 5 ตุลาคม
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2011, 01:33:10 PM »
เกิดฝนตกหนักน้ำท่วมจังหวัดสุรินทร์หลายอำเภอ

เกิดฝนตกหนักเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้อำเภอชุมพลบุรี รัตนบุรี และท่าตูม ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้างมากขึ้น ขณะที่อำเภอจอมพระและอำเภอเมืองสุรินทร์ น้ำเอ่อท่วมเนื่องจากระบายน้ำไม่ทัน
    นายอำนวย จันทรัฐ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์ รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ว่าขณะนี้ระดับน้ำล้นตลิ่งและเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตรในบริเวณที่ลุ่มต่ำขยายเป็นวงกว้าง หากยังมีฝนในพื้นที่ประกอบกับการรับน้ำมาจากต้นน้ำจังหวัดนครราชสีมา-บุรีรัมย์ ซึ่งจะไหลมาสมทบกันที่แม่น้ำมูล คาดว่าน้ำอาจจะเอ่อท่วมเส้นทางการสัญจรและบ้านเรือนของประชาชน สร้างความเดือดร้อนในการดำรงชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอชุมพลบุรี ท่าตูม รัตนบุรี ระดับน้ำแม่น้ำมูลปัจจุบัน และลำน้ำชีน้อยระดับน้ำระดับน้ำล้นตลิ่ง มีน้ำท่วมขังนาข้าวในบริเวณที่ลุ่มต่ำ
    ขณะนี้จังหวัดสุรินทร์ ประกาศเป็นพื้นที่ประสบอุทกภัยจำนวน 5 อำเภอ 16 ตำบล 89 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเมืองสุรินทร์ สำโรงทาบ ท่าตูม ชุมพลบุรี และศรีณรงค์ ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน 5,305 ครัวเรือน นาข้าวเสียหาย 11,600 ไร่ ถนนเสียหาย 12 สาย จากการตรวจสอบพื้นที่ประสบอุทกภัย คาดว่านาข้าวจะเสียหายอีกประมาณ 10,145 ไร่ และมันสำปะหลังเสียหายประมาณ 22,968 ไร่
    นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้รับรายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่อำเภอชุมพลบุรี มีพื้นที่เกิดอุทกภัยขยายเป็นวงกว้างไปยังหมู่บ้านเพิ่มเติม ซึ่งเกิดจากระดับน้ำแม่น้ำมูลเอ่อล้นตลิ่งและน้ำไหลเอ่อมาจากลำพลับพลาเอ่อท่วมในพื้นที่ตำบลสระขุด ตำบลเมืองบัว ตำบลยะวึก ตำบลชุมพลบุรี ตำบลนาหนองไผ่ และตำบลไพรขลา นาข้าวเสียหาย 5,215 ไร่ และถนนเสียหาย 16 สาย
    อำเภอท่าตูมมีปริมาณน้ำมากจากภาวะล้นตลิ่งของแม่น้ำมูลและน้ำไหลเอ่อจากลำพลับพลาเอ่อท่วมขังในพื้นที่นาข้าวของตำบลทุ่งกุลา พรมเทพ โพนครก หนองบัว บะ หนองเมธี และท่าตูม ขยายเป็นวงกว้าง และขณะนี้ตำบลบะ หมู่ 8,9,11,13,14 น้ำได้เอ่อท่วมเส้นทางสัญจรประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก คาดว่าหากแม่น้ำมูลยังไหลเอ่อท่วมประกอบน้ำเอ่อมาจากลำห้วยระวี อำเภอจอมพระ จะทำให้ถนนหลายสายได้รับความเสียหาย
    อำเภอรัตนบุรี น้ำที่เอ่อล้นมาจากระดับน้ำในแม่น้ำมูลล้นตลิ่งและลำน้ำห้วยทับทัน ประกอบกับฝนตกหนักในพื้นที่ ทำให้มีปริมาณน้ำมาก เอ่อท่วมพื้นที่นาข้าวบริเวณที่ลุ่มต่ำประมาณ 13,850ไร่ ในพื้นที่ตำบลน้ำเขียว หมู่ 1-13 ,ตำบลแก หมู่ 1-15 , ตำบลกุดขาคีม หมู่ 1-11 ตำบลทับใหญ่ หมู่ 1-10 ตำบลหนองบัวทองหมู่ 1-9 และตำบลดอนแรด หมู่ 1-16 และน้ำได้ไหลกัดเซาะผิวจราจรทำให้ถนนเสียหายเล็กน้อย จำนวน 8 สาย
    อำเภอจอมพระ ได้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ตำบลกระหาด ตำบลจอมพระ,ตำบลลุ่มระวี ตำบลบุแกรง ตำบลเมืองลีง ตำบลบ้านผือ ตำบลเป็นสุข สาเหตุเกิดจากฝนตกหนักทำให้ระบายน้ำไม่ทัน สำหรับตำบลเมืองลีง เกิดจากน้ำเอ่อล้นตลิ่งของลำน้ำชีเอ่อท่วมพื้นที่นาข้าว และตำบลลุ่มระวี เกิดจากภาวะล้นตลิ่งของลำห้วยระวีเอ่อท่วมพื้นที่นาข้าวและเส้นทางสัญจร สำหรับความเสียหายอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
    อำเภอเมืองสุรินทร์ ได้เกิดสถานการณ์อุทกภัยสาเหตุจากฝนตกในพื้นที่ทำให้การระบายน้ำไม่คล่องตัว ได้แก่ ถนนมีท่อระบายน้ำบ้านเพี้ยราม บ้านขยูง และบ้านระกาไกรสร ตำบลเพี้ยราม ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่อกันมีน้ำท่วมขัง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนในการสัญจร และเกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่นาข้าว บริเวณดังกล่าวประมาณ 1,000 ไร่

น้ำท่วมทางหลวงกว่า 5 ก.ม. สาเหตุจากฝนหนักและชาวบ้านถมที่ขวางทางระบายน้ำ
    ดร.พันธุ์ศักดิ์ สัตยเทวา ผู้อำนวยการแขวงการทางสุรินทร์ เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมามีฝนตกหนักหลายพื้นที่ในจังหวัดสุรินทร์ เป็นเหตุให้ทางหลวงแผ่นดินได้รับความเสียหาย โดยในขณะนี้ได้มีน้ำท่วมขังถนนหลวงตั้งแต่สี่แยกหนองเต่าไปจนถึงบ้านกระทม ระยะทางกว่า 5 ก.ม. สาเหตุของปัญหานอกจากปริมาณน้ำฝนที่ตกตลอดทั้งคืนและอยู่ในระหว่างการแก้ปัญหา ให้ระดับน้ำในท้องถนนลดลงสู่ภาวะปกติให้เร็วที่สุด ปัญหาที่เป็นปัจจัยที่สำคัญคือการถมที่ดินที่มีระดับสูงมากขึ้น ทั้งในเขตเมือง ตำบล หมู่บ้าน สองข้างทางนอกเขตทางหลวง ทำให้ขวางทางระบายน้ำของทางหลวง จึงขอความร่วมมือจากประชาชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ใส่ใจในเรื่องของการถมที่ดินนอกเขตทางหลวงด้วย
    ทั้งนี้ เพื่อลดปัญหาน้ำท่วมถนนทางหลวงแผ่นดินและการบังคับใช้กฎหมายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในเรื่องการถมที่ดิน เขตควบคุมอาคาร ซึ่งทางหลวงเป็นเส้นทางสายหลักของคนใช้ถนน เพื่อการแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมาในอนาคตอีก อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้หมวดการทางสุรินทร์ เฝ้าระวังน้ำท่วมถนนทางหลวง ตลอด 24 ชม. พร้อมเตรียมเครื่องจักรออกทำงานได้ทันที เพื่อบรรเทาความทุกข์ของพี่น้องประชาชน

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: สถานการณ์น้ำท่วม 5 ตุลาคม
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2011, 01:34:09 PM »
ผวจ.ร้อยเอ็ด นำคาราวานออฟโรด มอบถุงยังชีพช่วยภัยน้ำท่วมหนัก

    ช่วงบ่ายที่ผ่านมา (4 ต.ค.54) นายสมศักดิ์ ขำทวีพรม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นำขบวนคาราวานออฟโรดจังหวัดร้อยเอ็ด,กรรมการเหล่ากาชาดฯ,กำลังทหาร จังหวัดทหารบกร้อยเอ็ด ออกจากบึงพลาญชัย ประตู สาเกตนคร นำถุงยังชีพ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่ อบต.พลับพลา อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด โดยมีนายอำเภอเชียงขวัญ และประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมมารอต้อนรับจำนวนมาก และเป็นตำบลหมู่บ้านที่น้ำท่วมหนัก น้ำทะลักท่วมบ้านเรือน นาข้าว ถนน อยู่ใต้น้ำ เสียหายทั้งหมด หมู่บ้านถูกตัดขาดจากภายนอก ระดับน้ำท่วมสูงเกือบเมตรครึ่ง
    อำเภอเชียงขวัญ นับเป็นอำเภอที่ถูกน้ำท่วมหนัก และท่วมซ้ำซาก เป็นแหล่งแก้มลิงของจังหวัดร้อยเอ็ด ติดกับแม่น้ำชี ประชาชนประสบภัยน้ำท่วมหนัก 44 หมู่บ้าน ถนนสายหลัก 5 สาย จมอยู่ใต้น้ำ ถูกตัดขาด ห้ามสัญจรไปมา ได้แก่ ถนนสายร้อยเอ็ด-เชียงขวัญ กม.13 บ้านปากกุง น้ำท่วมสูงเกือบเมตร ระยะ1.5 กม. ถนนเข้าหมู่บ้านดอนวิเวก หมู่ 4 ต.พระธาตุ อ.เชียงขวัญ ก่อนเข้าหมู่บ้านประมาณ 1 กม. ถนนจมอยู่ใต้น้ำ ระดับน้ำสูง 1.50 เมตร,ถนนสายบ้านหวายหลึม – บ้านพลับพลา ระยะ 2 กม. ระดับน้ำสูงเกือบเมตร โดยเฉพาะบ้านพลับพลา หมู่ 1 น้ำได้ เอ่อท่วม บ้านเรือน วัด โรงเรียน สั่งปิด เกือบสัปดาห์ โดยสรุปอำภอเชียงขวัญน้ำท่วมหนักร้อยละ 77 ของพื้นที่ทั้งหมด 66 หมู่บ้าน (น้ำท่วม 44 หมู่บ้าน ) พนังกั้นน้ำขาด ถนน,สะพาน,วัด,โรงเรียน ถูกน้ำท่วมหนัก ต้องใช้เรือท้องแบนและการเดินเท้าเท่านั้น ในการสัญจรระหว่างหมู่บ้าน ซึ่งทางจังหวัดได้ส่งเรือท้องแบน 12 ลำ สร้างส้วมชั่วคราว 21 แห่ง พร้อมมอบถุงยังชีพเพื่อเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว
    ผวจ.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.ร้อยเอ็ด มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมวลน้ำจากเขื่อนลำปาว, เขื่อนอุบลรัตน์ และจากลุ่มน้ำมูล ลุ่มน้ำชี ลุ่มน้ำยัง รวมทั้งปริมาณน้ำฝนในรอบเดือนกันยายนปีนี้มีปริมาณสูงถึง 4 เท่า ในคาบ 50 ปี หรือ 570 มม. เมื่อเทียบเดือนเดียวกันปี 53 ปริมาณน้ำฝนวัดได้ 125.2 มม. ซึ่งจังหวัดร้อยเอ็ด ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติน้ำท่วมหนัก 19 อำเภอ ราษฎรได้รับผลกระทบ 386,186 คน 114,572 ครัวเรือน เสียชีวิต 4 ราย นาข้าวจมอยู่ใต้น้ำ 249,947 ไร่ บ่อปลา 1,529 บ่อ, ถนนเสียหาย 482 สาย ฝาย 3 แห่ง สะพาน 2 แห่ง ผนังกั้นน้ำ 1 แห่ง วัด 2 แห่ง สถานศึกษาได้รับผลกระทบ 20 แห่ง พร้อมย้ำเตือนให้นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จัดการเฝ้าระวังน้ำท่วม และน้ำป่าไหลหลากตลอด 24 ชม.พร้อมเตือนระวังเด็กเล่นน้ำพลัดจม ที่ผ่านมาจมน้ำตาย 4 คน แล้ว

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: สถานการณ์น้ำท่วม 5 ตุลาคม
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2011, 01:34:29 PM »
อุทกภัยที่อำเภอแถบตอนใต้ของจังหวัดเชียงใหม่เริ่มคลี่คลาย

อุทกภัยที่อำเภอแถบตอนใต้ของจังหวัดเชียงใหม่เริ่มคลี่คลาย ทุกภาคส่วนกำลังเร่งฟื้นฟูเยียวยา ขณะที่หลายองค์กรยังระดมน้ำใจช่วยภัยน้ำท่วมเชียงใหม่
    นายชูชาติ กีฬาแปง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยจังหวัดเชียงใหม่ แถบอำเภอตอนใต้ ทั้งอำเภอแม่แจ่ม ฮอด จอมทอง คลี่คลายแล้ว ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้มอบหมายให้นายสุรชัย จงรักษ์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ดูแล ทั้งการบรรเทาทุกข์ การฟื้นฟู สิ่งสาธารณูปโภค ความสะอาด ทั้งถนน อาคารสถานที่สาธารณะ สุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม ประสานดูแลบ่อน้ำบาดาลในพื้นที่น้ำท่วม ขณะเดียวกันได้ประสานไปยังสถานศึกษาที่เปิดการเรียนการสอนวิชาช่างไฟฟ้าและเครื่องยนต์ในพื้นที่ ให้ดูแลประชาชนด้วย
    ส่วนน้ำท่วมที่อำเภอแม่แจ่ม ระดับน้ำในแม่น้ำแจ่มได้ลดลงแล้ว รถเล็กสามารถผ่านสะพานท่าข้ามได้แล้ว ขณะที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ได้จัดทีมแพทย์และพยาบาลลงพื้นที่ เพื่อฟื้นฟูผู้ประสบภัยและแจกยารักษาโรค พร้อมคลอรีนสำหรับใส่น้ำอุปโภคบริโภค
    ขณะที่ตัวแทนห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี 4 สาขา ได้มอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม จำนวน 3,000 ชิ้นแก่นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ โดยก่อนหน้านี้เทสโก้โลตัสได้นำสิ่งของไปส่งมอบให้หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ด้วย ขณะที่ชมรมหมาเห่าใบตองแห้งได้มอบเงินสดจำนวน 9 พันบาทเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยผ่านจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายชูชาติ กีฬาแปง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นตัวแทนรับมอบ ขณะที่กลุ่มผู้จัดรายการ Helping Hand รายการภาคภาษาอังกฤษ ออกอากาศทาง สวท.เชียงใหม่ มอบเงินสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และเชิญชวนชาวต่างชาติที่พำนักในเชียงใหม่ร่วมสมทบทุนผ่านรายการด้วย

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: สถานการณ์น้ำท่วม 5 ตุลาคม
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2011, 01:34:51 PM »
เตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้แม่น้ำเลย ระวังน้ำล้นตลิ่งคืนนี้

    ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดเลย ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเลยเพิ่มสูงขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยวันนี้ (4 ต.ค.2554) เวลาประมาณ 19.00 น. ระดับน้ำวัดได้จากสถานีวัดน้ำ Kh 58A (บริเวณใกล้สะพานข้ามแม่น้ำเลยไปโรงแรมเลยพาเลซ ถนนเจริญรัฐ) ตำบลกุดป่อง อำเภอเมือง จังหวัดเลย วัดระดับน้ำได้ 10.28 เมตร จึงแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้แม่น้ำเลย ได้ขนย้ายสิ่งของไว้ที่สูงและเตรียมพร้อมรับมือภาวะน้ำในแม่น้ำเลยล้นตลิ่ง เนื่องจากมวลน้ำในแม่น้ำเลยในพื้นที่อำเภอภูหลวงจะเดินทางมาถึงพื้นที่อำเภอเมืองและเขตเทศบาลเมืองเลยคืนนี้ เวลาประมาณ 22.00 น.
    ขณะนี้จังหวัดเลยได้รับกำลังสนับสนุนจากกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 8/ กรมทหารพรานที่ 21 /จังหวัดทหารบกเลย /สมาชิก อส. /อปพร. /ตำรวจภูธร /เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเลย /เจ้าหน้าจากเทศบาลเมืองเลย /มูลนิธิสว่างคีรีบูชาธรรม /มูลนิธิกู้ภัยเทวา และเจ้าหน้าที่อำเภอเมืองเลย ช่วยกันนำกระสอบทรายมากั้นริมตลิ่งแม่น้ำเลยในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองเลย บริเวณถนนเจริญรัฐตั้งแต่หน้าวิทยาลัยอาชีวศึกษาเลยถึงโรงแรมซันพาเลซ เพื่อป้องกันน้ำล้นตลิ่งเข้ามาในตัวเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจการค้าของจังหวัดเลย และช่วยเคลื่อนย้ายสิ่งของขึ้นไว้ที่สูงให้แก่ผู้ประสบภัย
    นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและคณะลงพื้นที่ของจังหวัดเลย เพื่อตรวจสภาพน้ำท่วม กำหนดแนวทางการป้องกันและแก้ไขฯ และได้มอบให้โครงการชลประทานเลย เร่งหาเครื่องสูบน้ำเพื่อสูบน้ำระบายน้ำในแม่น้ำเลย พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกว่า 100 คน มาปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยและอยู่เวรตลอด 24 ชั่วโมง
    หากพบผู้ประสบภัย หรือต้องการขอช่วยเหลือสามารถแจ้งได้ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเลย อาคารศาลากลางจังหวัดเลย (หลังเก่า) ชั้น 1 หมายเลขโทรศัพท์ 0-4281-1871 และ 0-4286-1579 หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: สถานการณ์น้ำท่วม 5 ตุลาคม
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2011, 01:35:28 PM »
จ.ชลบุรียังมีน้ำท่วมขังสะสมอยู่ในพื้นที่อำเภอพนัสนิคม

จ.ชลบุรี ยังมีน้ำท่วมขังสะสมอยู่ในพื้นที่อำเภอพนัสนิคม แต่คาดว่าหากไม่มีฝนตกจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว
    นายกอบชัย บุญอรณะ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ในช่วงนี้จังหวัดชลบุรีมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ แต่เนื่องจากเป็นช่วงเวลาสั้นๆ จึงทำให้พื้นที่ต่างๆ สามารถระบายน้ำได้ทัน ไม่เกิดน้ำท่วมฉับพลันเข้าบ้านเรือนประชาชนแต่อย่างใด สำหรับพื้นที่น้ำท่วมขังในปัจจุบัน มวลน้ำได้สะสมอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งเป็นพื้นที่นาตามตำบลไร่หลักทอง วัดหลวง วัดโบสถ์ และหน้าพระธาตุของอำเภอพนัสนิคม และจากการที่ทำการเปิดเครื่องสูบน้ำที่ประตูระบายน้ำคลองน้ำเค็ม และเปิดเครื่องผลักดันน้ำบริเวณคลองชลประทานพานทองอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะทำให้น้ำที่สะสมตามไร่นาต่างๆ จะลดลงและกลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว สำหรับพื้นที่อำเภออื่นๆ ได้กลับเข้าสู่สภาะปกติ และอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายเพื่อดำเนินการซ่อมแซมฟื้นฟูต่อไป

น้ำในอ่างเก็บน้ำของจังหวัดชลบุรียังรับน้ำได้

    นายกมล ศักดิ์ประสิทธิ์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ระยะนี้จังหวัดชลบุรี ได้มีฝนตกติดต่อกันหลายวัน ทำให้อ่างเก็บในพื้นที่จังหวัดชลบุรีมีมาก สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดชลบุรี ร่วมกับสำนักงานโครงการชลประทานชลบุรี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สรุปสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำที่สำคัญของจังหวัดชลบุรี ดังนี้ ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำบางพระ อำเภอศรีราชา มีปริมาณน้ำ 98.798 ล้าน ลบ.ม. หรือ 84.44 % ของความจุอ่าง ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำหนองค้อ 21.600 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 100.93 % ของความจุอ่าง ระบายน้ำลงสู่อ่างเก็บน้ำบางพระ โดยไม่มีการระบายน้ำออกสู่พื้นที่ภายนอกอ่างแต่อย่างใด อ่างเก็บน้ำบ้านบึง มีปริมาณน้ำในอ่าง 11.110 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 101.18 % ของความจุอ่าง น้ำที่เกินความจุได้ผันน้ำล้นลงคลองน้ำเขียว คลองลำพาง และคลองสรวง อำเภอบ้านบึง สำหรับอ่างเก็บน้ำอื่นๆ มีประมาณ 40-77 % ของความจุอ่าง ยังสามารถรับน้ำได้


ข่าวทั้งหมดจาก สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 05, 2011, 01:47:02 PM โดย admin »