วันที่ 12 (25 พ.ย.58)
วันนี้เป็นวันลอยกระทง วันเพ็ญเดือนสิบสอง ของเมืองไทย คณะเดินทางออกจากเมืองเอกหลันโจว(มณฑลกานซู)
มุ่งหน้าสู่ครึ่งทางของการเดินทางตามเส้นทางสายไหมในจีน สู่เมืองเป่าจี(มณฑลส่านซี)
- ล้อหมุนออกเดินทาง 8.30 น.) คณะเดินทางสัมผัสอากาศหนาวเย็นวันนี้อากาศอุ่นขึ้นมาเป็น 1-2 องศา C
เช้านี้ก่อนออกเดินทางต่อก็ได้มีโอกาสยลโฉมบรรยากาศเมืองหลันโจว.....หากนับย้อนหลังไปในอดีตกาล เส้นทางสายไหม อันเป็นเส้นทางค้าขายระหว่างจีนกับทวีปยุโรป แอฟริกาก็น่าจะผ่านเมืองหลันโจวแห่งนี้ และเขาเล่าว่าเมื่อครั้งที่ พระเสวียนจั้ง (พระถังซำจั๋ง) เดินทางไปอัญเชิญพระไตรปิฎกที่ประเทศอินเดีย ท่านน่าจะธุดงค์ผ่านดินแดนแห่งนี้ที่กลายเป็นเมืองหลานโจว เช่นกัน
แม่น้ำฮวงโห (Huang He) หรือ แม่น้ำหวงเหอในภาษาจีนกลางเป็นแม่น้ำที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของจีนรองจากแม่น้ำแยงซีเกียง ความยาวของฮวงโหนั้นอยู่ที่ 5,464 กิโลเมตร ไหลผ่านหลันโจวเส้นทางสายแพรไหม จึงทำให้เมืองนี้เป็นเมืองเก่าและเมืองใหญ่ เมืองเศรษฐกิจอีกเมืองหนึ่งของจีน
- ชมมรดกโลก ถ้ำผาพุทธศิลปม่ายจีซาน
ม่ายจีซาน (maijishan) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของ นครเทียนสุ่ย มณฑลกานซู่ ของจีน ลักษณะภูเขาที่คล้ายกับกองข้าวสาลีในทุ่งนา ภูเขานี้จึงได้ชื่อว่า ภูเขา ม่ายจีซาน ซึ่งหมายความว่า"ภูเขากองข้าวสาลี"
- เมื่อเราเดินตาม ทางกระดานหน้าผา ชมปฏิมากรรมสวยงาม มีอายุนานนับพันปี สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์จิ้นตะวันออกตอนปลาย (ค.ศ.384-417) พร้อมกับช่วงการเปิดเส้นทางสายไหม อุโมงค์พระที่ใหญ่ที่สุดกว้าง 31 เมตร อุโมงค์ส่วนมากเจาะที่ชะโงกผา
สรุปแล้ว เป็นศิลปเชิงช่างแบบโบราณสืบทอดกันมาภายใน อุโมงค์ม่ายจีซาน สัมผัสสุดยอดความ งามของศิลปะแห่งชาติที่ได้สั่งสมความงดงามประณีตของยุคสมัยต่างๆถึง 6 ราชวงศ์ (ช่วงราชวงศ์หวูสมัยสามก๊กถึงช่วงราชวงศ์ใต้เหนือในคริสต์ ศตวรรษที่ 3-6) และศิลปะลีลาใหม่ของยุคราชวงศ์ถัง และซ่ง (คริสต์ศตวรรษ 7-13) เสมือนเป็น “หอนิทรรศการปฏิมากรรมแห่งภูผาบูรพาทิศ”
- คณะเดินทางออกเดินทางสู่เมืองเป่าจี มณฑลส่านซี ร่วมงานเลี้ยงแบบท้องถิ่นแบบสบายในวันนี้