วันรุ่งขึ้น เราแพลนเที่ยวมรดกโลก เราพลาดไปเพราะว่าฝนตกตั้งแต่เช้า เรื่อยมาไม่สามารถไปไหนได้เลย จึงต้องนั่งรถไฟกลับเข้าโตเกียวแทน ขากลับเข้าโตเกียวใช้เวลาไม่นานประมาณ สอง ชม เรามาถึงก็ตรงดิ่งจะไปกินบุพเฟ่ขาปูยัก ตามที่เราอ่านข้อมูลมา ที่ห้างไดมารุตรงสถานีรถไฟโตเกียว ราคาบุพเฟ่ถือว่าไม่แพง แต่พอเข้าไปทาน เราว่ามันไม่อร่อย ปูสู้บ้านเราไม่ได้อาหารอย่างอื่นก็มีไม่เยอะ และก็เย็นๆชืดๆ โดยรวมคือไม่อร่อยไม่แนะนำให้มาทาน
วันนี้เราต้องขึ้นเครื่องกลับแล้ว แต่กว่าจะกลับก็ห้าทุ่ม เราจึงตัดสินใจฝากกระเป๋าที่ล็อกเกอร์เพื่อจะได้ไปเดินเที่ยวต่อแบบตัวเบาๆ ซึ่งล็อกเกอร์ฝากของจะมีอยู่ทั่วไปทุกเมือง มีหลายขนาดให้เราเลือกใช้ กระเป๋าของเราใบใหญ่ ค่าเช่า เป้นรายวัน ตก 500 เยน หยอดเหรียญแล้ว ก็ชักกุญแจ ล็อคได้เลย หลังจากนั้นเรานั่งรถไฟไปย่านฮาราจุกุ ถ้าเทียบกับบ้านเราคงคล้ายๆกับสยาม จะมีแต่เด็กวัยรุ่น คนแต่งตัวสวยๆสะเยอะ ย่านนี้จะมีสินค้าแบรนด์เนมอยู่เยอะ เราสนใจร้านรองเท็ าโอนิสึกะ ราคาที่นี้จะถูกว่าบ้านเราครึ่งหนึ่ง ถือว่าถูกมาก เราช๊อปปิ้งจนได้เวลาที่พอควรก็กลับไปเอากระเป๋า และนั่งรถไฟไปสนามบินเพื่อเตรียมตัวกลับ
ทริปนี้ประทับใจสุดๆ เหนื่อยไปนิดเพราะตื่นเช้าทุกวัน และย้ายที่นอนทุกสองคืน ค่าใช้จ่ายทั้งทริปไม่รวมช๊อปปิ้งอยู่ที่ประมาณ ห้าหมื่นสามพันบาท เที่ยวเต็มๆสิบวัน อิอิจบแล้ว ถ้ามีทริปดีดีจะมาเล่าประสบการณือีกนะจ้า