สถานการณ์น้ำท่วม 27 กันยายน

[admin]

น้ำท่วมศูนย์วิจัยข้าวชัยนาทสูญข้าวพันธุ์ดีที่วิจัยแล้วกว่า 200 ไร่

    นายสมศักดิ์ ทองดีแท้ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยข้าวชัยนาทให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า น้ำที่ทะลักจากพนักกั้นน้ำที่ตำบลธรรมามูลได้เริ่มไหลเข้าท่วมศูนย์วิจัยข้าวชัยนาทเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เดิมใช้กระสอบทรายกั้นพื้นที่นาข้าวที่เป็นแปลงทดลองและแปลงผลิตประมาณกว่า 200 ไร่ แต่ไม่เป็นผล จนถึงขณะนี้น้ำเพิ่มสูงสุดกว่า 80 เซนติเมตร
    ศูนย์วิจัยข้าวชัยนาทมีหน้าที่ค้นคว้าวิจัย และผลิตเมล็ดพันธุ์ชั้นหัวเชื้อ ชั้นพันธุ์คัด พันธุ์หลัก เพื่อส่งมอบให้ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวชัยนาท กระจายให้เกษตรกรนำไปขยายพันธุ์ต่อไป นอกจากนั้นยังทำหน้าที่ถ่ายทอดเทคโนโลยี เมื่อ 2 ปีที่ก่อนสมเด็จพระเทพรัตราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินมาทรงศึกษาเทคโนโลยีการผลิตข้าว และทรงเกี่ยวข้าวในแปลงผลิตที่นี่ด้วย ขณะนี้ต้องปิดสำนักงานเนื่องจากน้ำท่วมหมดเครื่องมืออุปกรณ์เสียหายบางส่วน ผลกระทบที่เกิดขึ้นได้สูญเสียเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ได้ทำการวิจัยแล้ว กำลังผลิตเพื่อขยายพันธุ์ไปจำนวนมากยังไม่สามารถประเมินได้

สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์

[admin]

สำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา ประเมินสถานการณ์ลุ่มน้ำโคราช กลับสู่ปกติ แต่ต้องเฝ้าระวังช่วงมรสุมต้นเดือนหน้า

    หม่อมหลวงอนุมาศ ทองแถม ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำภายในอ่างเก็บน้ำสำคัญๆ ของจังหวัดนครราชสีมา ทั้ง 4 แห่ง ซึ่งประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว อ่างเก็บน้ำลำมูลบน และอ่างเก็บน้ำลำแชะ อ.ครบุรี และอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา รวมถึงสถานการณ์ในลุ่มน้ำต่างๆ ภายในเขตจังหวัดนครราชสีมา ว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทุกแห่งมีปริมาณน้ำกักเก็บเกิน 80 % แล้วทุกแห่ง แต่ยังอยู่ในภาวะที่จะสามารถพร่องระบายน้ำ เพื่อรับมือกับมรสุมลูกใหม่ ที่จะเกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 27 - 30 ก.ย.2554 นี้ รวมถึงมรสุมลูกใหม่ ที่จะเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ ในขณะที่ลำน้ำในลุ่มน้ำต่างๆ ทั่วทั้งจังหวัด ยังอยู่ในภาวะปกติ มีเพียงลุ่มน้ำลำมูลในพื้นที่อำเภอพิมายบางช่วงเท่านั้น ที่เอ่อล้นตลิ่ง แต่ยังคงสร้างความเสียหายได้ไม่มากนัก และด้วยสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งยังไม่มีฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของอำเภอพิมาย จึงทำให้ขณะนี้ปริมาณน้ำในลำน้ำมูล ผ่านช่วงที่ปริมาณน้ำสูงสุดไปแล้ว และจะลดระดับลงเรื่อยๆ

[admin]

ชาวบ้านหนองสามขา อ.หนองกุงศรี เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสใช้รถอีแต๊กรับ-ส่งข้ามถนน้ำท่วม

ชาวกาฬสินธุ์เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส ใช้รถอีแต๊กรับ-ส่งรถจักรยานยนต์ข้ามฝั่งเที่ยวละ 30 บาท หลังน้ำท่วมบริเวณฝั่งเกาะมหาราช สูงกว่า 60 ซม. เกือบ 800 เมตร ทำให้รถเล็กผ่านไม่ได้

    สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในเขตพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมอยู่ 8 อำเภอ คือ อำเภอยางตลาด กมลาไสย หนองกุงศรี สามชัย ร่องคำ เมืองกาฬสินธุ์ สหัสขันธ์ และอำเภอสามชัย ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 118,580 ครัวเรือน 521,172 คน ความเสียหายประมาณ 132,919,211 บาท พื้นที่การเกษตรเสียหาย 131,702 ไร่ ด้านประมง 11 บ่อ ถนนเสียหาย 959 สาย สะพาน 5 แห่ง ฝาย/ผนังกันน้ำ 16 แห่ง บ้านเรือนน้ำท่วมขัง 373 หลัง วัด 3 แห่ง ส่วนปริมาณน้ำในเขื่อนลำปาว ขณะนี้อยู่ที่ 2,050 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปริมาณกักเก็บที่ 1,980 ล้านคิดเป็น 104% ซึ่งทางเขื่อนต้องระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง

    จากปริมาณน้ำในเขื่อนลำปาวที่เกินความจุดังกล่าว ทำให้ถนนบริเวณเกาะมหาราช ตำบลหนองบัว อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ ติดกับสะพานเทพสุดา ซึ่งเป็นสะพานข้ามเขื่อนลำปาวและยาวที่สุดในประเทศไทย ใช้เป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างอำเภอสหัสขันธ์ ไปอำเภอหนองกุงศรี อำเภอท่าคันโท และจังหวัดอุดรธานี ขณะนี้มีน้ำท่วมขังสูงเกือบ 60 เซนติเมตรยาวกว่า 800 เมตร รถจักรยานยนต์ รถเก๋ง ไม่สามารถขับผ่านไปได้มีเพียงรถปิกอัพโฟร์วีลเท่านั้น แต่ก็เป็นไปด้วยความลำบาก อันตราย แต่มีวิกฤตน้ำท่วมก็ยังมีโอกาสแฝงมาด้วย เมื่อนางยุพา ภูขีด อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98 หมู่ที่ 5 บ้านหนองสามขา ตำบลหนองบัว อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ใช้รถไถนาเดินตาม หรือรถอีแต๊กมาบริการรับ-ส่งผู้ใช้รถจักรยานยนต์ที่ต้องการข้ามไปยังฝั่งอำเภอสหัสขันธ์ โดยคิดค่าโดยสารคันละ 30 บาท

    ด้านนางยุพา ภูขีด บอกว่า หลังจากมีฝนตกมาหลายวันและน้ำในเขื่อนลำปาวสูงขึ้น จนทำให้ท่วมถนนบริเวณเกาะมหาราช ที่ผ่านมาจะมีนักเรียนใช้รถจักรยานยนต์เดินทางไปโรงเรียน และจอดดับอยู่กลางถนน ตนเห็นก็เลยสงสารจึงให้เด็กเอารถจักรยานยนต์ขึ้นรถอีแต๊กแล้วนำไปส่ง แล้วต่อมาก็จะมีคนมาเรียกใช้บริการจึงได้ทำมาอย่างต่อเนื่องโดยคิดราคาคันละ 30 บาท นอกจากนี้ก็ได้ประสานงานกับทางเทศบาลตำบลหนองบัว เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท้วมถนนครั้งนี้ โดยขอเพียงค่าน้ำมันและค่าแรงวันละ 300-400 บาท ก็ได้ เพราะสงสารชาวบ้าน นักเรียน คนทำงานที่ใช้เส้นทางประจำ

[admin]

ทร.ลำเลียงถุงยังชีพพระราชทานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคเหนือและอิสาน

กองทหารเรือลำเลียงถุงยังชีพพระราชทานช่วยเหลือภาคเหนือและอิสาน
    ที่สนามบินอู่ตะเภา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงพระกรุณาโปรดให้กองทัพเรือ ลำเลียงถุงยังชีพพระราชทานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก สภากาชาดไทย จำนวน 1,220 ชุด ขึ้นรถบรรทุกของกองทัพ เพื่อนำเข้าให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ จำนวน 360 ชุด และในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด จำนวน 810 ชุด
    โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงพระกรุณาโปรดให้ผู้แทนพระองค์นำถุงยังชีพพระราชทานฯ แจกจ่ายให้กับราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยน้ำท่วม พร้อมกับทรงโปรดให้บรรจุถุงยังชีพพระราชทานฯ เพิ่มเติมอีก จำนวน 9,000 ชุด ณ สนามบินอู่ตะเภา เพื่อเตรียมเข้าให้ความช่วยเหลือราษฎร ที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยน้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศอีกด้วย

[admin]

ชลประทานนนทบุรี ส่งเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมเตือนช่วงนี้ น้ำทะเลหนุนสูงอีกครั้ง

    นายอาภากร สนิกะวาที หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงชลประทาน โครงการชลประทานนนทบุรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น ทำให้จังหวัดนนทบุรีมีน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาและริมคลองขนาดใหญ่ทั้ง 6 อำเภอ คือ อำเภอปากเกร็ด 11 ตำบล อำเภอเมือง 9 ตำบล อำเภอบางบัวทอง 8 ตำบล อำเภอบางใหญ่ 6 ตำบล อำเภอบางกรวย 9 ตำบล และอำเภอไทรน้อย 7 ตำบล รวม 50 ตำบล ซึ่งโครงการชลประทานนนทบุรี ได้ส่งเครื่องสูบน้ำทั้งระบบไฟฟ้าและระบบดีเซล เข้าช่วยเหลือในพื้นที่ จำนวน 50 เครื่อง แล้ว

    หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงชลประทาน โครงการชลประทานนนทบุรี ยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ช่วงวันที่ 26-30 กันยายน นี้ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้ทุกภาคของประเทศมีฝนตกเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ นอกจากนี้พายุดีเปรสชั่นในทะเลจีนใต้ตอนกลาง ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนไห่ถางแล้ว ซึ่งลักษณะเช่นนี้จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำท่าไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น และจะเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ ต่อเนื่องทุกวัน รวมถึงระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านจังหวัดนนทบุรี มีระดับน้ำสูงขึ้นประกอบกับช่วงนี้จนถึงวันที่ 3 ตุลาคม เป็นช่วงน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นไปอีก จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาและริมคลองขนาดใหญ่ที่ไม่มีอาคารบังคับน้ำขนย้ายสิ่งของไปอยู่ในที่ปลอดภัยจากน้ำท่วมและต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอดเวลาด้วย

[admin]

นครสวรรค์ เตือนภัย พายุ “ไห่ถาง” ขึ้นฝั่ง 27 นี้

    นายชัยโรจน์ มีแดง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ แจ้งว่า ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ประกาศเตือนภัย เรื่อง เฝ้าระวังพายุหมุนเขตร้อน พายุโซนร้อน “ไห่ถาง” ปัจจุบันมีศูนย์กลาง อยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน อยู่ห่างจากจังหวัดนครพนมไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ 800 กิโลเมตร อาจจะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ประมาณวันที่ 27 กันยายน 2554 และจะส่งผลต่อประเทศไทยทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับลมกระโชกแรงในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน บริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร สกลนคร หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี และหนองบัวลำภู

    อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “เนสาด” ในมหาสมุทรแปซิฟิกฯ มีศูนย์กลางอยู่ทางตะวันออกของเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ จะเคลื่อนตัวผ่านประเทศฟิลิปปินส์ลงสู๋ทะเลจีนใต้ อาจจะเคลื่อนตัวมาถึงประเทศไทยในอีก 3 - 4 วันข้างหน้า

    สถานการณ์น้ำที่นครสวรรค์ ล่าสุด มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 10 อำเภอ 72 ตำบล 596 หมู่บ้าน 31 ชุมชน ราษฎรได้รับผลกระทบ 62,653 ครัวเรือน 195,405 คน พื้นที่การเกษตร 661,935 ไร่ ผู้เสียชีวิต 19 ราย

    แม่น้ำเจ้าพระยา (C2) อ.เมืองฯ ระดับน้ำล้นตลิ่ง 43 ซ.ม. (เพิ่มขึ้น 1 ซ.ม.) ปริมาณน้ำ ไหลผ่าน 4,254 ลบ.ม./วินาที

    ประชาชนหรือ ผู้ประสบภัย สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น / อำเภอในพื้นที่ประสบภัย หรือแจ้งมายังศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ จังหวัด หมายเลขโทรศัพท์ 056 - 803538 – 40 ตลอด 24 ชั่วโมง

[admin]

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ สั่งเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังดินโคลนถล่มซ้ำในพื้นที่ ตำบลน้ำไผ่ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์

    ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ สั่งเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังดินโคลนถล่มซ้ำในพื้นที่ ตำบลน้ำไผ่ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์
    นายโยธิน สมัทรคีรีจ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่าหลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดเหตุดินโคลนถล่มซ้ำในพื้นที่ บ้านห้วยเดื่อ หมู่ที่ 2 ตำบลน้ำไผ่ อำเภอน้ำปาด ห่างจากจุดเดิมประมาณ 20 กิโลเมตร โดยพื้นที่ดังกล่าวอยู่บริเวณเชิงเขาภูเมี่ยง เป็นจุดที่เคยเกิดดินโคลนถล่มลักษณะดินค้างจากรอยเดิม จากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ชาวบ้านที่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงต่างขนย้ายสิ่งของ มาอาศัยยังศูนย์อพยพชั่วคราวที่โรงเรียนบ้านห้วยเดื่อเพื่อความปลอดภัยแล้ว
    ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่าแม้เหตุการณ์เมื่อคืนนี้จะไม่สร้างความเสียหายให้กับชีวิตและทรัพย์สินก็ตาม แต่ก็สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวเป็นอย่างมาก ขณะที่ทางจังหวัดได้จัดให้เจ้าหน้าที่ในศูนย์อพยพชั่วคราวพร้อมให้ความช่วยเหลือตลอดเวลา ตลอดจนเฝ้าระวังทั้งระดับน้ำในลำห้วย การสังเกตุเสียงดินโคลนถล่มและการไหลของดินและหิน พร้อมทั้งจัดหน่อยอพยพพร้อมอพยพได้ใน 24 ชั่วโมง

[admin]

ตลาดท่าเรือ จ.อยุธยาฯ จมน้ำแล้ว

    พ่อค้าแม่ค้าในตลาด อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ปิดร้านย้ายหนีออกมาอาศัยอยุ่ริมถนน หลังถูกน้ำจากแม่น้ำป่าสักไหลเข้าท่วม ระดับน้ำสูงกว่า 1.50 ม. เพียงแค่ 2 วัน
    วันนี้ (27 ก.ย.54) ตลาดเทศบาลเมืองท่าเรือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกน้ำจากแม่น้ำป่าสักไหลเข้าท่วม ทำให้ระดับน้ำท้ายตลาดมีน้ำท่วมสูงมากกว่า 1.5 เมตร พ่อค้าแม่ค้าที่ขายของอยู่ด้านในตลาด ต้องย้ายสิ่งของออกมาขายริมถนนหน้าโรงพยาบาลท่าเรือ เนื่องจากขณะนี้ด้านในรถยน์ไม่สามารถวิ่งเข้าไปได้แล้ว ส่วนบางร้านที่ไม่ยอมออกมาอยู่ริมถนน ก็ใช้วิธีการก่อแนวป้องกันน้ำท่วมด้านหน้าและสูบน้ำออกเท่านั้น ส่วนสิ่งของใช้วิธีการหนุนให้สูงเพียงอย่างเดียว
    ทั้งนี้ตลาดเทศบาลท่าเรือ มีประชากรและพ่อค้าแม่ค้าราว 2,000 ครัวเรือน โดยมีปีที่ผ่านมาในตลาดแห่งนี้เกิดน้ำท่วมหนักที่สุดในรอบ 40 ปี และในปีนี้คาดว่าจะมีปริมาณน้ำมากกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งชาวบ้านตลอดจนพ่อค้าแม่ค้าได้ขนย้ายสิ่งของออกไปใว้ในที่สูง โดยระดับน้ำเมื่อปีที่ผ่านมาเป็นเกณฑ์แล้ว
    อย่างไรก็ตาม เทศบาลตำบลท่าเรือได้แจ้งไปยังในชุมชนที่ถูกน้ำท่วม ให้เตรียมอพยพขึ้นมาอยู่ในพื้นที่สูง เพราะเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ยังคงระบายน้ำมากกว่า 900 ลบ.ม./วินาที ทำให้ท้ายเขื่อนพระราม 6 ในเขต อ.ท่าเรือ ซึ่งรับน้ำโดยตรงจากจังหวัดลพบุรี และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ระบายน้ำมากกว่า 1,050 ลบ.ม./วินาที ซึ่งถือว่ามากใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ที่เขื่อนพระราม 6 ระบายถึง 1,200 ลบ.ม./วินาที ซึ่งถือเกินจุดวิกฤติจำนวนมาก

สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์