เกิดฝนตกหนักน้ำท่วมจังหวัดสุรินทร์หลายอำเภอ
เกิดฝนตกหนักเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้อำเภอชุมพลบุรี รัตนบุรี และท่าตูม ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้างมากขึ้น ขณะที่อำเภอจอมพระและอำเภอเมืองสุรินทร์ น้ำเอ่อท่วมเนื่องจากระบายน้ำไม่ทัน
นายอำนวย จันทรัฐ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์ รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ว่าขณะนี้ระดับน้ำล้นตลิ่งและเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตรในบริเวณที่ลุ่มต่ำขยายเป็นวงกว้าง หากยังมีฝนในพื้นที่ประกอบกับการรับน้ำมาจากต้นน้ำจังหวัดนครราชสีมา-บุรีรัมย์ ซึ่งจะไหลมาสมทบกันที่แม่น้ำมูล คาดว่าน้ำอาจจะเอ่อท่วมเส้นทางการสัญจรและบ้านเรือนของประชาชน สร้างความเดือดร้อนในการดำรงชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอชุมพลบุรี ท่าตูม รัตนบุรี ระดับน้ำแม่น้ำมูลปัจจุบัน และลำน้ำชีน้อยระดับน้ำระดับน้ำล้นตลิ่ง มีน้ำท่วมขังนาข้าวในบริเวณที่ลุ่มต่ำ
ขณะนี้จังหวัดสุรินทร์ ประกาศเป็นพื้นที่ประสบอุทกภัยจำนวน 5 อำเภอ 16 ตำบล 89 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเมืองสุรินทร์ สำโรงทาบ ท่าตูม ชุมพลบุรี และศรีณรงค์ ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน 5,305 ครัวเรือน นาข้าวเสียหาย 11,600 ไร่ ถนนเสียหาย 12 สาย จากการตรวจสอบพื้นที่ประสบอุทกภัย คาดว่านาข้าวจะเสียหายอีกประมาณ 10,145 ไร่ และมันสำปะหลังเสียหายประมาณ 22,968 ไร่
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้รับรายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่อำเภอชุมพลบุรี มีพื้นที่เกิดอุทกภัยขยายเป็นวงกว้างไปยังหมู่บ้านเพิ่มเติม ซึ่งเกิดจากระดับน้ำแม่น้ำมูลเอ่อล้นตลิ่งและน้ำไหลเอ่อมาจากลำพลับพลาเอ่อท่วมในพื้นที่ตำบลสระขุด ตำบลเมืองบัว ตำบลยะวึก ตำบลชุมพลบุรี ตำบลนาหนองไผ่ และตำบลไพรขลา นาข้าวเสียหาย 5,215 ไร่ และถนนเสียหาย 16 สาย
อำเภอท่าตูมมีปริมาณน้ำมากจากภาวะล้นตลิ่งของแม่น้ำมูลและน้ำไหลเอ่อจากลำพลับพลาเอ่อท่วมขังในพื้นที่นาข้าวของตำบลทุ่งกุลา พรมเทพ โพนครก หนองบัว บะ หนองเมธี และท่าตูม ขยายเป็นวงกว้าง และขณะนี้ตำบลบะ หมู่ 8,9,11,13,14 น้ำได้เอ่อท่วมเส้นทางสัญจรประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก คาดว่าหากแม่น้ำมูลยังไหลเอ่อท่วมประกอบน้ำเอ่อมาจากลำห้วยระวี อำเภอจอมพระ จะทำให้ถนนหลายสายได้รับความเสียหาย
อำเภอรัตนบุรี น้ำที่เอ่อล้นมาจากระดับน้ำในแม่น้ำมูลล้นตลิ่งและลำน้ำห้วยทับทัน ประกอบกับฝนตกหนักในพื้นที่ ทำให้มีปริมาณน้ำมาก เอ่อท่วมพื้นที่นาข้าวบริเวณที่ลุ่มต่ำประมาณ 13,850ไร่ ในพื้นที่ตำบลน้ำเขียว หมู่ 1-13 ,ตำบลแก หมู่ 1-15 , ตำบลกุดขาคีม หมู่ 1-11 ตำบลทับใหญ่ หมู่ 1-10 ตำบลหนองบัวทองหมู่ 1-9 และตำบลดอนแรด หมู่ 1-16 และน้ำได้ไหลกัดเซาะผิวจราจรทำให้ถนนเสียหายเล็กน้อย จำนวน 8 สาย
อำเภอจอมพระ ได้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ตำบลกระหาด ตำบลจอมพระ,ตำบลลุ่มระวี ตำบลบุแกรง ตำบลเมืองลีง ตำบลบ้านผือ ตำบลเป็นสุข สาเหตุเกิดจากฝนตกหนักทำให้ระบายน้ำไม่ทัน สำหรับตำบลเมืองลีง เกิดจากน้ำเอ่อล้นตลิ่งของลำน้ำชีเอ่อท่วมพื้นที่นาข้าว และตำบลลุ่มระวี เกิดจากภาวะล้นตลิ่งของลำห้วยระวีเอ่อท่วมพื้นที่นาข้าวและเส้นทางสัญจร สำหรับความเสียหายอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
อำเภอเมืองสุรินทร์ ได้เกิดสถานการณ์อุทกภัยสาเหตุจากฝนตกในพื้นที่ทำให้การระบายน้ำไม่คล่องตัว ได้แก่ ถนนมีท่อระบายน้ำบ้านเพี้ยราม บ้านขยูง และบ้านระกาไกรสร ตำบลเพี้ยราม ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่อกันมีน้ำท่วมขัง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนในการสัญจร และเกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่นาข้าว บริเวณดังกล่าวประมาณ 1,000 ไร่
น้ำท่วมทางหลวงกว่า 5 ก.ม. สาเหตุจากฝนหนักและชาวบ้านถมที่ขวางทางระบายน้ำ
ดร.พันธุ์ศักดิ์ สัตยเทวา ผู้อำนวยการแขวงการทางสุรินทร์ เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมามีฝนตกหนักหลายพื้นที่ในจังหวัดสุรินทร์ เป็นเหตุให้ทางหลวงแผ่นดินได้รับความเสียหาย โดยในขณะนี้ได้มีน้ำท่วมขังถนนหลวงตั้งแต่สี่แยกหนองเต่าไปจนถึงบ้านกระทม ระยะทางกว่า 5 ก.ม. สาเหตุของปัญหานอกจากปริมาณน้ำฝนที่ตกตลอดทั้งคืนและอยู่ในระหว่างการแก้ปัญหา ให้ระดับน้ำในท้องถนนลดลงสู่ภาวะปกติให้เร็วที่สุด ปัญหาที่เป็นปัจจัยที่สำคัญคือการถมที่ดินที่มีระดับสูงมากขึ้น ทั้งในเขตเมือง ตำบล หมู่บ้าน สองข้างทางนอกเขตทางหลวง ทำให้ขวางทางระบายน้ำของทางหลวง จึงขอความร่วมมือจากประชาชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ใส่ใจในเรื่องของการถมที่ดินนอกเขตทางหลวงด้วย
ทั้งนี้ เพื่อลดปัญหาน้ำท่วมถนนทางหลวงแผ่นดินและการบังคับใช้กฎหมายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในเรื่องการถมที่ดิน เขตควบคุมอาคาร ซึ่งทางหลวงเป็นเส้นทางสายหลักของคนใช้ถนน เพื่อการแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมาในอนาคตอีก อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้หมวดการทางสุรินทร์ เฝ้าระวังน้ำท่วมถนนทางหลวง ตลอด 24 ชม. พร้อมเตรียมเครื่องจักรออกทำงานได้ทันที เพื่อบรรเทาความทุกข์ของพี่น้องประชาชน