หนีกรุงไปปรุงใจที่ "ดอยปุยน้อยปุยหลวง

[Pui]

เดินกันมา จนถึงจุด ตักน้ำของลูกหาบ โดย เราสามารถอาบน้ำ ได้ ณ จุดนี้ เป็นตาน้ำเท่านั้นนะจ้า แต่น้ำก็มีเพียงพอให้เราได้อาบน้ำได้สบาย และจากจุดนี้เราก็ต้องเดินขึ้นเพื่อจะไปหาที่กางเต๊นทื โดยขึ้นประมาณ  400 เมตร
ลานกางเต๊นท์ กว้างขวางเช่นเดิม  การทำธุระส่วนตัวก็เช่นเดิมจ้า เลือกมุมตามใจชอบ

[Pui]

หลังจากกางเต๊นทื เตรียมทำอาหาร 55 ต้องทุบหม้อข้าวหม้อแกงให้หมดเพื่อขากลับเราจะได้เดินกันเบาๆ
เจ้าหน้าที่ก็พาขึ้นยอดเขาเพื่อไปชมพระอาทิตย์ตกและเป็นจุดดูทะเลหมอกของเช้ารุ่งขึ้นด้วย
จากจุดกางเต๊นท์ต้องปีนขึ้นอีกแล้ว เฮ้อ เหนื่อย จัง แต่ก็กัดฟันเดินขึ้นไป
รวมระยะทางของวันนี้วัดจากเครื่อง GPS ของนาฬิกา เขาบอกว่า วันนี้เดินมาประมาณ  12 กิโลเมตร

[Pui]

บรรยากาศดีมาก แสงกำลังอุ่นๆ มองไปก็ให้ความรู้สึกเหมือนกันแหะ

[Pui]

วันนี้ พระอาทิตย์สวยสู้เมื่อวานไม่ได้ อิอิ แต่จากระยะทางที่เดินมาขนาดนี้ มันต้องสวยกว่า
บริเวณนี้แหละถ้าจำไม่ผิด คือ ดอยปุยน้อยปุยหลวง เจ้าหน้าที่บอกว่าจริงๆมันคือ ฮุยน้อยฮุยหลวง

[Pui]

หลังจากชมพระอาทิตย์ตก รับประทานอาหาร เราก็ต้องตื่นเต้นอีกครั้ง เนื่องจาก ช่วงที่เราไปช่วงพระจันทร์เต็มดวง
พวกเราได้มีโอกาสเห็นพระจันทร์ดวงโตๆ ค่อยขึ้นมาจากขอบฟ้าเป็นสีส้มลูกกลมโต
แต่กล้องคอมแพ็คของเราเก็บมาได้แค่นี้ คงเก็บได้แต่ความทรงจำ 

[Pui]

เราเข้านอนกันหัวค่ำอีกเช่นเคย ประมาณ สี่ทุ่ม เพื่อพรุ่งนี้เราจะได้ขึ้นไปดูทะเลหมอก
ประมาณ 6 โมง เราตื่นขึ้นมา สภาพเต๊นท์ ภายนอกเปียกแฉะไปด้วยน้ำค้าง ซึ่งแตกต่างจากคืนแรกที่กางเต๊นท์มากเพราะคืนแรก ไม่มีน้ำค้างเลย
ทั้งๆที่ระยะทางห่างกันแค่ 12 กิโลเมตร
เราเดินเมาขี้ตาไปยังยอดดอย เพื่อไปชมทะเลหมอก หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเห็นทะเลหมอกอันแสนอลังการตามที่เจ้าหน้าเล่าให้ฟัง แต่พอไปถึงเห็นได้ชัดว่าน้อยกว่าวันแรกอีกอ่ะ

[Pui]

หลังจากผิดหวังเล็กน้อยจากทะเลหมอก เล็กน้อย อิอิ คิดในใจไม่เป็นไรธรรมชาติก็เป็นแบบนี้แหละ
เราเดินลงมาเพื่อทานอาหารและเตรียมตัวเดินลงจากเขา เนื่องจากโปรแกรมของเราวันนี้จะไปล่องแพไม้ไผ่กันจ้า
เส้นทางก็คล้ายๆ กับสองวันที่เดินมา แต่ว่า เส้นทางส่วนใหญ่ จะเป็นทางลง และลงจริงๆ

[Pui]

สำหรับเส้นทางขาลงวันนี้ เป็นเส้นทางสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะมาแบบค้างคืน 1 คืน เท่านั้น จะมาเส้นนี้ ซึ่ง ซึ่ง 80 % เป็นทางขึ้นทั้งหมด ถือว่าหนักหนาสำหรับการเดินทีเดียวเพราะทางค่อนข้างแห้งและเป็นดินหินที่สามารถลื่นได้ตลอดเวลา
เจ้าหน้าที่กลัวพวกเราจะลื่น ทำไม้เท้าให้เรา เดินค้ำกันไป
ปกติเป็นคนไม่ชอบใช้ไม้ แต่เส้นทางนี้ คิดว่ามีไม้ช่วยได้เยอะจริงๆ เพราะทางเขาชันและลื่นจริง

[Pui]

วันนี้ทางส่วนใหญ่เป็นทางลง รวมระยะทางการเดินวันนี้ประมาณ 7 กิโลเมตร ก็จะมีรถเจ้าหน้าที่มารอรับเราอยู่
คันเดิมเลยครับพี่น้อง

[Pui]

หลังจากขนของขึ้นรถเราก็นั่งรถกันต่อเพื่อจะไปล่องแพไม้ไผ่กันต่อ

เส้นทางรถก็เอาเรื่องเหมือนเดิม นั่งจิกก้นกันจนเมื่อย เนื่องจากขึ้นลงและโขยกเขยกกันตลอดระยะทางประมาณ 1 ชม