หลังจากที่การถ่ายภาพเสร็จสิ้นลง และท้องฟ้ามืดสนิท กิจกรรมอันต่อไปของเราคือการกินข้าวเย็น เราเลือกใช้บริการของร้านสวัสดิการ ซึ่งครัวจะปิดเวลาประมาณ 1 ทุ่ม อาหารแต่ละอย่างที่สั่งไป ค่อยๆ ทยอยมาทีละอย่าง อย่างช้าๆ เพราะเจ้าหน้าที่ทำอาหารมีน้อย อันนี้เข้าใจครับ สมาชิกของเรา 10 กว่าคน สั่งไปคนละอย่าง 2 อย่าง ก็หลายจานเข้าไปแล้ว แล้วยังมีคนอื่นๆ อีก การสนทนาในร้านอาหารของอุทยานแห่งชาติดอยภูคา เป็นไปอย่างสนุกสนานและไม่มีทีท่าว่าจะจบลงกันง่ายๆ จุดเริ่มของเรื่องมาจากเว็บ ยูทูบ มีคนโพสต์เรื่อง ครัว กาก กาก ขึ้นมา จนเป็นที่ฮือฮาอยู่ในขณะนี้
หลังจากนั้นไม่นานเมื่อเราได้อาหารกันครบก็กลับมายังที่นั่งรอบกองไฟ เราซื้อฟืน 1 มัด ราคา 50 บาท พร้อมโปรโมชั่นแถมฟรี เจ้าหน้าที่ติดไฟให้ การติดไฟของเจ้าหน้าที่ใช้วิธีธรรมชาติคาดไม่ถึง อึ้ง เหวอไปตามๆ กัน เจ้าหน้าที่เอาเปลือกไม้ชนิดหนึ่ง ชื่อ
ต้นเกี๊ย เอาไฟแช๊คลนไม่นานก็ติดไฟ หลังจากติดไฟแล้ว เจ้าเปลือกไม้ชนิดนี้จะมีลักษณะเหมือนยางที่ติดไฟ มันจะดับยากมาก เอาเปลือกไม้ที่ว่าวางลงไป เอาฟืนเรียงๆ กันข้างบนไม่นานไฟก็ติดที่ฟืน
นอกเหนือจากนี้เราได้ติดต่อขอซื้อข้าวโพดจากชาวบ้านละแวกนี้ ที่กำลังขนไปขายที่เชิงเขา ขอซื้อมา 10 ฟัก เพื่อเผากินระหว่างสนทนารอบกองไฟ
และกิจกรรมนี้ทำให้เรารู้ว่า การทำอาหารแบบกากกาก นั้นมันเป็นยังไง ข้าวโพดที่ซื้อมามันกินได้แค่ฟักละครึ่งเดียวเอง อีกครึ่งหนึ่งมันไหม้ไฟไปแล้ว 555
นอกเหนือจากนั้น เราก็ได้เห็นพระจันทร์เต็มดวงที่สวยมากบนดอยภูคา และเป็นครั้งแรกที่ความพยายามที่จะถ่ายภาพดวงจันทร์แบบนี้ประสบความสำเร็จ เนื่องจากไม่มีขาตั้ง เล่นเอากลั้นหายใจเหนื่อยกันเลยทีเดียว